‘ทูเคิ่ล’ มั่นสิงห์ขายทีมเสร็จสิ้นในไม่ช้า

โธมัส ทูเคิ่ล มั่นใจว่ากระบวนการขายสโมสร เชลซี จะเสร็จสิ้นในอีกไม่ช้า หลังพวกเขาขยับใกล้จะได้เจ้าของทีมรายใหม่แล้ว

เรน กรุ๊ป ผู้ดูแลการขายสโมสรได้เลือกกลุ่มทุนของ ท็อดด์ โบห์ลี ให้เป็นทุนที่เหมาะสมต่อการเข้าเทคโอเวอร์สโมสร เชลซี

คาดหมายกันว่าข้อเสนอของ โบห์ลี จะถูกส่งต่อให้พรีเมียร์ลีกทำการตรวจสอบความเหมาะสม รวมถึงให้รัฐบาลสหราชอาณาจักรไฟเขียวการเทคโอเวอร์

ทูเคิ่ล เปิดเผยว่าเขาได้ยินเรื่องการเลือกกลุ่มทุนในสัปดาห์ที่แล้วและมั่นใจว่าการเทคโอเวอร์จะลงเอยด้วยดี

“ผมได้ยินในสัปดาห์ที่แล้วว่าเราเลือกกลุ่มทุนแล้วและหลายๆสิ่งกำลังมีความคืบหน้า” ทูเคิ่ล เผย

“เป็นสัปดาห์ที่ค่อนข้างสำคัญสำหรับสโมสร แต่ผมโฟกัสเพียงแค่เรื่องในสนามอย่างเดียว แต่ผมก็มั่นใจนะหลังจากสิ่งที่ได้ยินในสัปดาห์ก่อน”

“ความชัดเจนคือเรื่องที่ดีที่สุดอยู่เสมอ เพราะเมื่อสถานการณ์ชัดเจนแล้วคุณก็ลงมือได้, ทำการตัดสินใจและลงมือ ไม่อย่างนั้นคุณก็ต้องคอยอยู่นิ่งๆและตอนนี้เราก็เป็นแบบนั้นอยู่”

“เราพยายามทำให้มันเป็นเรื่องเล็กที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่แน่นอนว่าเป็นปัญหามาเสมอ เราอยากให้มันเป็นสถานการณ์ที่ชัดเจนและคิดถึงความก้าวหน้า”

“นั่นคือสิ่งที่เราหวังไว้, เรารู้ว่าเรารับมือกับอะไรอยู่, การพัฒนาทีมอยู่ภายใต้สถานการณ์นี้ จากนั้นเราค่อยลงมือ, มากกว่าจะมาตอบสนอง, หรือแย่กว่านั้น, ทำอะไรไม่ได้”

กระบวนการขายทีมเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ เชลซี ก็น่าจะกลับมาดำเนินการได้ตามปกติและ ทูเคิ่ล หวังว่าทีมจะไม่เสียเปรียบคู่แข่งมากเกินไป

เมื่อถามว่ามองหาเป้าหมายเสริมทัพไว้บ้างหรือยัง, ทูเคิ่ล ตอบว่า “แน่นอน แต่ในตอนนี้เป็นเพียงแค่เรื่องเล็กๆนะ คุณได้แค่มองหาเท่านั้นแหละ”

“เราติดต่อไม่ได้, เราโน้มน้าวใครไม่ได้, เรายื่นข้อเสนอไม่ได้ ดังนั้นเรามีไอเดียอยู่แต่ก็ได้แค่นั้น เราเป็นฝ่ายตามหลังในการเสริมทัพ, เราเคยพูดเอาไว้แล้ว”

“เรามองว่าอาจจะเป็นเรื่องเสียเปรียบ, แต่ไม่ได้เสียเปรียบหนัก ไม่ว่าทีมเป็นแบบไหนเราก็จะสู้ไหวเพราะสโมสรจะแข็งแกร่งอยู่เสมอ”

“ดังนั้นต่อให้หลายๆสิ่งได้ข้อสรุปและมีทีมชุดเดิม เราก็จะไปคว้าชัยชนะ เราไม่เคยทำเพื่อหวังผลแบบอื่นและเราจะไม่ทำอะไรแตกต่างไปจากนี้”

“เรามีหลายไอเดียและมีไอเดียที่ชัดเจนว่าจะทำให้ดีขึ้นได้ยังไง, จะทำให้ทีมสดขึ้นได้ยังไง, ปรับปรุงทีมด้วยเอเนอร์จี้และคุณภาพใหม่ๆ แต่ก็ไม่ใช่ตลาดซื้อขายหนแรกที่คนเป็นโค้ชจะมีความทะเยอทะยานที่ทำให้เป็นจริงไม่ได้”

“ดังนั้นเราจะหาทางออก อันดับแรกเราต้องปรับสถานการณ์ทั่วๆไป ดูวา่เป็นไปได้หรือไม่และจากนั้นก็ดูว่าอะไรเป็นไปได้บ้าง”