นึกว่าดูมวย! แมนซิตี้ หนีไม่ขาด โดน ราชัน ซัดโทษท้ายเกม 4-3 ชี้ชะตานัดหน้าที่ เบอร์นาบิว

นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เตรียมเปิดสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ เรอัล มาดริด ในศึก ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก (ยุโรป) เมื่อคืนวันอังคารที่ 26 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะมาในระบบ 4-3-3 พร้อมกับขนเอาผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม นำโดย เควิน เดอ บรอยน์,ฟิล โฟเดน,ริยาด มาห์เรซ และมี กาเบรียล เชซุส ยืนเป็นหน้าเป้า 

ขณะที่ เรอัล มาดริด จะมาสู่ด้วยระบบ 4-3-3 เช่นเดียวกัน นำโดยซุปตาร์ของทีมอย่าง  โทนี่ โครส,ลูก้า โมดริช,วินิซิอุส จูเนียร์ และ คาริม เบนเซม่า ดาวซัลโวของทีม

นาทีที่ 2 แมนซิตี้ นำเร็ว !!

เปิดก่อนได้เปรียบ คำนี้ใช้ได้จริงๆ เมื่อเจ้าบ้านมาได้ประตูออกนำเร็ว จากจังหวะที่ มาห์เรซ ขึ้นเกมทางกราบขวา ก่อนจะเลี้ยงตัดเข้าใน แล้วเปิดบอลเข้ากลางประตูให้ เดอ บรอยน์ ตามไปโหม่งที่จุดนัดพบ ส่งบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม 

นาทีที่ 11 แมนซิตี้ ใส่สกอร์เพิ่ม!

รูปเกมยังคงเป็นเจ้าถิ่นที่ได้บุกอย่างต่อเนื่อง แล้วก็มาได้ประตูที่สอง จากจังหวะที่ โฟเดน ตามไปเก็บบอลสุดมุมธงฝั่งซ้าย ก่อนจะแทงต่อให้ เดอ บรอยน์ จ่ายยัดเข้าเขตโทษ เชซุส เกี่ยวได้ก่อนจะพลิกหนีตัวประกบ หลุดเข้าไปปั่นบอลโค้งๆ สวนตัว ธิโบต์ คูร์กตัวส์ เข้าไปอย่างสวย 

นาทีที่ 33 ราชัน นับ1!

ผ่านครึ่งชั่วโมง หลังจากโดน ซิตี้กดดันอยู่นาน ในที่สุดทีมเยือนก็มาได้ประตูตีไข่แตก จากจังหวะที่ โมดริช ตามไปเล่นลูกที่ เบนเซม่า ทำเสีย ก่อนจะจิ้มต่อให้ เมนดี้ ที่ยืนรออยู่ริมเส้นฝั่งซ้ายได้เปิดยัดกลับเข้ากลางประตูอีกครั้ง และก็เป็น เบนเซม่า ที่วิ่งมายิงจังหวะแรก บอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปไม่มีเหลือ 

นาทีที่ 45

ก่อนหมดเวลา แมนซิตี้ เกือบได้ลูกที่สาม จากจังหวะที่ แฟร์นานดินโญ่ ตัดบอลตรงกลางสนามได้ ก่อนจะจ่ายเร็วให้ มาห์เรซ ใช้สปีดกระชากหนีตัวประกบหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา แล้วเลือกเปิดเข้ากลาง แต่ลูกนี้เพื่อนไม่ได้วิ่งเติมขึ้นมาด้วย เลยไม่มีใครชาร์จ กองหลัง เรอัลมาดริด เคลียร์สบาย 

หมดครึ่งเวลาแรก แมนซิตี้ ทำได้ตามเป้า พวกเขานำ มาดริด อยู่ 2-1 ด้วยรูปเกมแบบนี้ ครึ่งหลัง ซิตี้ น่าจะบวกเพิ่มได้อีกแน่นอน 

นาทีที่ 53 เม็ด 3 มาจนได้ ซิตี้ นำห่าง !

เจ้าบ้านมาได้ประตูที่สามจนได้ จากจังหวะที่ แฟร์นานดินโญ่ ตัดบอลตรงกลางสนามได้อีกแล้ว ก่อนจะจ่ายออกขวาให้ทำชิ่งกับ ชินเซนโก้  บอลกลับมาที่ เขาอีกครั้ง เจ้าตัวเลยเลือกโยนบอลไปที่หน้าประตู จบด้วย โฟเดน สอดมาโหม่งระยะ ไม่เกิน6หลา เข้าประตูไปอย่างสวยงาม 

นาทีที่ 55 ราชัน ไม่ยอม ไล่ตาม 2-3 !

ทีมเยือนไม่ยอมพวกเขาตอบโต้จนได้ประตูที่สอง จากจังหวะสวนกลับ เมนดี้ แทงให้ วินิซิอุส โชว์สกิลปล่อยบอลหลอก แฟร์นานดินโญ่ ก่อนจะติดเครื่องโซโล่เดี่ยวจนได้หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษระยะเผาขน สวนตัว เอแดร์ซอน เข้าประตูไปไม่มีเหลือ 

นาทีที่ 74 แมนซิตี้ นำ 4-2 !!

หลังจากโดนไล่มา แมนซิตี้ ก็มาขึงเกมรุกอีกครั้ง แล้วกผ้ได้ประตูที่ 4 ตามคาด จากจังหวะที่ ชินเซนโก้ เลี้ยงบอลมาหน้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้าย โยกหลบแล้วโดนเกี่ยวล้มลงไป แต่กรรมการให้เป็นลูกได้เปรียบ ผู้เล่น มาดริด ที่สองจิตสองใจ ยืนนิ่งอยู่ เลยโดน แบร์นาร์โด้ เก็บตก ยิงยัดเสาแรกเข้าไปแบบงงๆ 

นาทีที่ 82 ราชัน ตีตื้น 4-3 !

เกมเหมือนจะจบลงที่ 4-1 ไปแล้ว แต่จู่ๆ ลาปอร์ต ก็ไปพลาดโหม่งสกัดผิดจังหวะบอลไปโดนมือเขาในกรอบเขตโทษ กรรมการไม่มีทางเลือกต้องชี้ให้ มาดริด ได้ลูกจุดโทษทันที และก็เป็น เบนเซม่า ที่วิ่งมายิงแบบปาเนก้า เข้าประตูไปอย่างสวย

หมดเวลาการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะไปก่อนในเลกแรก แต่พวกเขาไม่สามรถยิงประตูทิ้งห่างได้มากเท่าที่ควร ทำให้นัดหน้าที่ เบอร์นาบิว เรอัล มาดริด ยังมีโอกามลุ้นเข้ารอบอยู่ 

ขอขอบคุณไฮไลท์เด็ดๆ จาก ufabet