บุกแทบตายแต่เจาะไม่เข้า!! “เรอัล มาดริด” เปิดบ้านพับสนาม ทำได้แค่เสมอกับ “กาดิซ” 0-0

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด เปิดสนาม เปิดสนาม เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว, กรุงมาดริด ประเทศสเปน ต้อนรับการมาเยือนของทีม กาดิซ ในศึกฟุตบอล ลาลีกา สเปน นัดที่ 18 เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย คาร์ลอส เอ็นริเก้ คาเซมิโร่ กองกลางห้องเครื่อง วินิซิอุส จูเนียร์ ตัวจี๊ดริมเส้นความเร็วสูง และ คาริม เบนเซม่า ดาวยิงตัวจบสกอร์ของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน กาดิซ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ อัลบาโร่ เซร์เบร่า มาเล่นในระบบ 4-1-4-1 นำทีมโดย อเล็กซ์ เฟร์นานเดซ กองกลางห้องเครื่อง รูเบน โซบรีโน่ ปีกตัวจี๊ด และ อันโทนี่ โชโก้ โลซาโน่ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

นาที 7

เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ที่ได้ครองบอลบุกทักทายก่อนตามสไตล์ จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย โทนี่ โครส บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ สบโอกาสได้วางเท้าวอลเลย์เน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรง ลอยโด่ง เหินข้ามคานออกไป

นาที 10

ทีมเยือน กาดิซ ได้ทักทายขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ ต่อเนื่องจากเตะมุม แล้วเป็น โตมัส อาลาร์กอน ครอสบอลแถวสองเข้าไปที่กรอบเขตโทษฝั่งขวาให้ การ์ลอส อากาโป เติมสูงสอดมาโขกชงกลับเข้าไปที่กลางประตูตั้งให้ ฟาลี่ ได้ตวัดยิงเร็วด้วยขวาโดนไม่ดีเท่าไหร่ บอลหลุดกรอบออกหลังไป

นาที 15

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ไหลบอลมาที่หน้าเขตโทษให้ โทนี่ โครส ได้แต่งเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะขอลองซัดไกลนอกกรอบเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่ายังไม่เข้าเป้า ลอยถากเสาออกไปไกล

นาที 18

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ แฟร์กล็อง เมนดี้ ดันสูงเติมขึ้นมารับบอลที่หน้าเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวมองซ้ายมองขวาไม่มีช่องจ่าย ก่อนจะตัดสินใจลองซัดไกลด้วยขวาข้างไม่ถนัดนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งไปแฉลบบล็อก เยนส์ ยอนส์สัน ปลิ้นลอยข้ามคานออกไป ได้เป็นเตะมุม

นาที 23

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ รับบอลจากทาง โทนี่ โครส บริเวณหน้าเขตโทษ เจ้าตัวโยกแต่งบอลหาช่องหนึ่งที ก่อนจะได้เหลี่ยมวางเท้าตะบันด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัวเป็นจรวดเข้ากรอบ แต่เป็น เฮเรเมียส เลเดสม่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาพุ่งเซฟเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 24

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย โทนี่ โครส บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสววมาที่เสาแรก แล้วเป็น ดาวิด อลาบา โฉบมาโหม่งเช็ดเน้น ๆ ส่งบอลไปแฉลบแนวรับเปลี่ยนทางเกือบเข้าประตู ทว่ายังเป็น เฮเรเมียส เลเดสม่า นายทวารทีมเยือน เจ้าเก่า ปัดทิ้งออกเสาสองไปได้ทัน

นาที 34

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด โหมบุกอย่างหนักแต่ยังเจาะแนวรับทีมเยือนไม่เข้า จังหวะนี้ คาร์ลอส เอ็นริเก้ คาเซมิโร่ ไหลบอลมาที่หน้าเขตโทษด้านขวาให้ ลูกัส บาสเกซ แบ็คขวาที่ดันสูงเติมขึ้นมา ได้ขอลองวางเท้าส่องไกลด้วยขวานอกกรอบ แต่ไม่เป็นผล บอลพุ่งแรงหลุดออกหลังไปไกล ไม่ได้ลุ้นอยู่ดี

นาที 45+1

ช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ทำยังไงก็ยังหาช่องเจาะแนวรับกาดิซไม่เข้า จังหวะนี้ โทนี่ โครส ขอลองตั้งป้อมบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ เฮเรเมียส เลเดสม่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน เหินเฉียดคานไปนิดเดียว หลุดออกหลังไปแบบได้ความหวาดเสียว

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดถึง 83-17 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ทัพราชันชุดขาวปูพรมขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือน กาดิซ อยู่ฝั่งเดียว ทว่ายังเจาะแนวรับเข้าไปยิงประตูแบบเหน่ง ๆ ไม่ได้เลย สกอร์ตอนนี้ ยังคงเสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!

นาที 56

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด น่าได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ จากจังหวะที่ โทนี่ โครส บรรจงเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ เอแด็ง อาซาร์ ได้โฉบมาโหม่งเช็ดเน้น ๆ บาง ๆ ทว่ายังเป็น เฮเรเมียส เลเดสม่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดี รับเอาไว้ได้ทันไม่พลาด

นาที 57

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ คาร์ลอส เอ็นริเก้ คาเซมิโร่ ขอลองก้มหน้าบรรจงวางเท้าปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ระยะกว่า 25 หลา ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยทำได้แค่เสียว สุดท้ายลอยหลุดออกหลังไปอีกครั้งหนึ่ง

นาที 59

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด เกือบจะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ วินิซิอุส จูเนียร์ รับบอลมาบริเวณริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวติดเครื่อง กระชากหนีตัวประกบ ลากตัดเข้าในทะลุเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะได้กดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัวแต่ดันไปตรงตัวของ เฮเรเมียส เลเดสม่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น

นาที 75

ทำไปทำมา ทีมเยือน กาดิซ เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว รูเบน โซบรีโน่ รับบอลจากเพื่อนแล้วกระชากขึ้นมาเองถึงริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวดึงจังหวะหาช่องก่อนจะเหลือบเห็นแล้วตบเลียดย้อนกลับไปที่หน้าเขตโทษให้ อัลบาโร่ เนเกรโด้ วิ่งมาตวัดยิงด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นผ่านมือของ ติโบลต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เฉียดเสาสองขวามือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 81

เจ้าถิ่น ทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษตรงกลาง แล้วเป็น คาริม เบนเซม่า รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย ทว่ายังไม่หนีมือเท่าไหร่ เฮเรเมียส เลเดสม่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่วันนี้ยังไม่พลาดง่าย ๆ ผวาพุ่งไปปัดเอาไว้ได้มันเฉียดฉิว

นาที 84

เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา โทนี่ โครส บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น เอแดร์ มิลิเตา สอดมาเทคตัวขึ้นโหม่งสะบัดเน้น ๆ ส่งบอลถากเสาไกลซ้ายมือ ลอยหลุดออกหลังไปเอง อย่างน่าเสียดาย

นาที 90+4

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ได้ลุ้นประตูชัยเฮือกสุดท้าย จากจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษเยื้อง ๆ ไปทางขวา แล้วเป็น ดาวิด อลาบา รับหน้าที่สังหาร วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายข้างถนัดเน้น ๆ ไปกำแพง บอลกระเด้งมาเข้าทางปืนของ โทนี่ โครส ได้ซ้ำเต็ม ๆ ด้วยขวานอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงทะลุบล็อกแต่ก็ยังไม่มุมเท่าไหร่ เฮเรเมียส เลเดสม่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน เขยิบมารับเข้ามือเอาไว้ได้ทัน

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด เปิดบ้านพับสนามบุกทำได้แค่เสมอกับทีมเยือน กาดิซ ไปด้วยสกอร์ 0-0 !!! รั้งจ่าฝูงของตารางคะแนนอยู่เหมือนเดิม ถูกหยุดสถิติชนะ 10 นัดติดต่อในทุกรายการลงได้ โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนแอธเลติก บิลเบา ในคืนวันพุธที่ 22 ธันวาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านกาดิซ อยู่อันดับที่ 19 รองบ๊วยของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับเซบีย่า ในคืนวันจันทร์ที่ 3 มกราคม 2565 ข้ามไปปีหน้านู่นเลย