มาร์ติเนซซัดชัย!! “อาร์เจนติน่า” เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ “โคลอมเบีย” ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพฟ้าขาว อาร์เจนติน่า เปิดสนาม เอสตาดิโอ มาริโอ อัลเบร์โต้ แคมเปส, คอร์โดบ้า ประเทศอาร์เจนติน่า ต้อนรับการมาเยือนของทัพโคเคน โคลอมเบีย ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ เมื่อช่วงเช้าของวันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น อาร์เจนติน่า ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ลิโอเนล สกาโลนี่ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย โจวานนี่ โล เซลโซ่ มิดฟิลด์ตัวทำเกม อังเคล ดิ มาเรีย ปีกจอมลากเลื้อย และ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ดาวยิงตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน โคลอมเบีย ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เรยนัลโด้ รูเอด้า มาเล่นในระบบ 4-3-3 เช่นกัน นำทีมโดย ฮาเมส โรดริเกวซ เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม หลุยส์ ดิอาซ ปีกจอมพลิ้ว และ มิเกล บอร์ฆ่า กองหน้าตัวความหวังของทีม 

นาที 10

เปิดฉากครึ่งแรกมา รูปเกมของทั้งสองทีมชวนน่าอึดอัด โดยเป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น อาร์เจนติน่า ที่ทำได้ดีกว่า ครองบอลบุกเข้าใส่ทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง ทว่ายังไม่ดีพอที่จะเจาะแนวรับโคลอมเบีย โอกาสจบสกอร์เหน่ง ๆ ยังไม่มีให้แฟน ๆ ได้เห็น

นาที 14

ทีมเยือน โคลอมเบีย ได้ลุ้นก่อน จากจังหวะ มิเกล บอร์ฆ่า ถอยถ่างออกมารับบอลทางริมเส้นฝั่งซ้าย เจ้าตัวพาบอลพลิ้วหนีคู่แข่งขึ้นมาเอง ก่อนจะฝากเข้าในต่อให้ หลุยส์ ดิอาซ สอดมาวางเท้าซัดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปแฉลบบล็อกแนวรับอาร์เจนติน่า สุดท้ายปลิ้นข้ามคาน หลุดออกหลังไป

นาที 16

เจ้าถิ่น อาร์เจนติน่า ได้ทักทายบ้าง จากจังหวะบุกสวนกลับขึ้นมาแล้วเสียบอล ก่อนจะเป็น อังเคล ดิ มาเรีย เก็บตกบอลที่ฉกบอลคืนมาได้ทางฝั่งขวา เจ้าตัวลากตัดเข้าในมาถึงหน้าเขตโทษทันที ก่อนจะขอลองบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ คามิโล่ วาร์กัส ผู้รักษาประตูทีมเยือน มุดลงกระดอนพื้น กระเด้งถากเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียว

นาที 26

เก็บต้องหยุดชะงักไปพักใหญ่ ๆ จากจังหวะที่ เคร์มัน เปซเซย่า เทคตัวขึ้นโขกหัวไปกระแทกกันกับ มิเกล บอร์ฆ่า ร่วงลงไปนอนด้วยกันทั้งคู่ ผู้ตัดสินรีบเรียกแพทย์ลงมาดูอาการ สุดท้ายลุกขึ้นมาเล่นต่อได้ไม่มีอะไร

นาที 29 GOAL!!!

เจ้าถิ่น ทัพฟ้าขาว อาร์เจนติน่า มาได้ประตูทะยานออกนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ มาร์กอส อาคุนญ่า ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย เจ้าตัวตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตูให้ ลูคัส โอคัมโปส โหม่งไม่ถึง สุดท้ายบอลมาตกใส่เท้าของ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ได้จับลงนิ่ม ๆ ก่อนจะทิ้งตัวตวัดยิงเลียดหักข้อด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปติดปลายมือของ คามิโล่ วาร์กัส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ปัดไม่พ้น บอลปลิ้นเสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 34

เจ้าถิ่น อาร์เจนติน่า เกือบได้ประตูหนีห่าง จากจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย ประมาณ 22 หลา หน้ากรอบเขตโทษเยื้อง ๆ ไปทางซ้าย แล้วเป็น อังเคล ดิ มาเรีย รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ แฉลบกำแพง พุ่งแรงทำท่าจะเสียบเสาไกลขวามือเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น คามิโล่ วาร์กัส ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาปัดทิ้งออกหลังเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 44

เจ้าถิ่น อาร์เจนติน่า บุกขึ้นมาตรงกลาง จังหวะนี้ อังเคล ดิ มาเรีย ส่องไกลนอกกรอบด้วยซ้ายไปติดบล็อกเต็ม ๆ บอลกระดอนออกมาเข้าทาง ฮวน กวาดราโด้ ได้ติดเครื่องกระชากพาบอลสวนกลับเร็วขึ้นมาเอง เดือนร้อนถึง มาร์กอส อาคุนญ่า ต้องทำฟาล์วตัดเกม โดนใบเหลืองไปเต็ม ๆ

นาที 45+1

ทีมเยือน โคลอมเบีย พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะ ฮาเมส โรดริเกวซ วางบอลยาวเร็วมาที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายให้ หลุยส์ ดิอาซ ได้ลากตัดเข้ากลาง ก่อนจะไหลนิ่ม ๆ ตามช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ มิเกล บอร์ฆ่า หลุดโล่ง ๆ เข้าไปล่อเป้าซัดติดเซฟของ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น บอลกระฉอกกลับมาเข้าทางเจ้าตัว คราวนี้เลือกไหลย้อนตั้งให้ หลุยส์ ดิอาซ ตามมาจิ้มซ้ำโดน ลูกัส มาร์ติเนซ เคลียร์ทิ้งจากบนเส้นเอาไว้ได้ทันเวลาหวุดหวิด

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น ทัพฟ้าขาว ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เป็นฝ่ายเดินเกมรุก บุกเข้าใส่ทีมเยือน ทัพโคเคน ได้อย่างต่อเนื่อง ยิงประตูขึ้นนำไปก่อนแล้วหนึ่งลูก สกอร์ตอนนี้ อาร์เจนติน่า 1 โคลอมเบีย 0 !!!

นาที 52

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน โคลอมเบีย ได้ลุ้นเล็ก ๆ ก่อน จากจังหวะ ต่อเนื่องจากลูกเตะมุม ฮาเมส โรดริเกวซ เก็บบอลแถวสองได้บริเวณกึ่งกลางสนามเยื้อง ๆ ไปทางขวา ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงหยอดเข้าไปที่เสาไกลให้ หลุยส์ ดิอาซ กำลังจะได้ซัดโล่ง ๆ อยู่แล้ว ทว่าเป็น เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น อ่านเกมขาด พุ่งออกมาตัดบอล คว้าเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 54

เกมต้องหยุดชะงักไปพักใหญ่ ๆ อีกครั้ง จากจังหวะที่เหมือนกับว่า มิเกล บอร์ฆ่า จะไปโดน ลูกัส มาร์ติเนซ ไปเล่นนอกเกม เอาแขนไปฟาดใส่หน้าของเจ้าตัวจนล้มลงไปนอนดิ้น ผู้เล่นโคลอมเบียโวยวายฟ้องจะเอาใบแดงกันใหญ่ ทว่าผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไร ไม่เช็ค VAR แถมให้เล่นต่อไปไม่มีอะไร

นาที 60

เกมดำเนินมาครบหนึ่งชั่วโมง เจ้าถิ่น อาร์เจนติน่า บุกขึ้นมาได้ลุ้นอีกระลอก จากจังหวะที่ อังเคล ดิ มาเรีย ฉกบอลได้แล้วลากพาบอลกินแดนขึ้นมาเองก่อนจะโดนทำฟาล์วร่วงลงไปบริเวณกึ่งกลางสนาม เจ้าตัว ที่ลุกขึ้นมารับหน้าที่ เล่นลูกลักไก่หลอกยิง วิ่งมาตะบันด้วยซ้ายเน้น ๆ ระยะกว่า 35 หลา ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นไปที่เสาแรกซ้ายมือ เดือดร้อนถึง คามิโล่ วาร์กัส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ต้องผวาพุ่งสุดตัว ทิ้งตัวปัดทิ้งออกหลังเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 64

เจ้าถิ่น อาร์เจนติน่า ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ โดนสกัดกระฉอกมาที่หน้าหัวกระโหลกเข้าทาง อังเคล ดิ มาเรีย ได้แต่งหนึ่งที ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงวางเท้าปั่นด้วยซ้ายนอกกรอบเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย ทำท่าจะเสียบเสาไกลซ้ายทือเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น คามิโล่ วาร์กัส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ปฏิกิริยายังไง โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาบินไปปัดปลายมือเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 74

เจ้าถิ่น อาร์เจนติน่า ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ มาร์กอส อาคุนญ่า ฉกบอลได้แล้วทำชิ่ง 1-2 กับ เปาโล ดิบาล่า ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะวางเท้ากดด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไปติดบล็อกของ ดาวินสัน ซานเชซ เต็ม ๆ กระดอนออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม

นาที 85

ทีมเยือน โคลอมเบีย ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย จังหวะนี้ ฮวน กวาดราโด้ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่เสาแรก แล้วเป็น วิลเลี่ยม เตลซิโญ่ โฉบมาโขกสะบัดเหน่ง ๆ ส่งบอลลอยผ่านหน้าปากประตู กระดอนถากเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปนิดเดียว ชนิดได้เสียว

นาที 90+1

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทีมเยือน โคลอมเบีย เกือบได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะ หลุยส์ ดิอาซ บรรจงวางบอลยาวข้ามแนวรับเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ โยฮัน โมฮิก้า จับบอลงโล่ง ๆ ก่อนจะตวัดเลียดไปที่หน้าประตูเข้าทาง นิโคลาส กอนซาเลซ หวดสกัดผิดเหลี่ยมไปตรงตัวของ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ผวาปัดเอาไว้ สุดท้ายคว้าเอาไว้ได้ทัน เกือบเป็นการทำเข้าประตูตัวเองซะแล้ว ทว่ามีธงล้ำหน้ายกขึ้นมา ถ้าเข้าก็อาจจะไม่ได้ประตูอยู่ดี

นาที 90+4

เจ้าถิ่น อาร์เจนติน่า มีโอกาสได้ลุ้นประตูเพิ่ม จากจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย ประมาณ 24 หลา หน้ากรอบเขตโทษ เยื้อง ๆ ไปทางขวา แล้วเป็น เปาโล ดิบาล่า รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ คามิโล่ วาร์กัส ผู้รักษาประตูทีมเยือน เฉียดคานหลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 90+5

ก่อนหมดเวลา เจ้าถิ่น อาร์เจนติน่า พลาดโอกาสที่จะได้ประตูปิดท้าย จากจังหวะ แนวรับโคลอมเบียสกัดบอลยาวพลาดเข้าทาง นิโคลาส กอนซาเลซ ได้กระชากหลุดเดี่ยวทะลุเข้าไปในเขตโทษ ก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะตัดสินใจไม่ดี เลือกส่งไม่ยอมยิงเองไปให้กับ เปาโล ดิบาล่า ที่หน้าเสาขวามือ ทว่าเป็น วิลเลี่ยม เตลซิโญ่ ตามมาสกัดเคลียร์ทิ้งเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด น่าเสียดายของสุด ๆ ช็อตนี้

หมดเวลาการแข่งขัน เจ้าถิ่น อาร์เจนติน่า เปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมเยือน โคลอมเบีย ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 !!! รั้งอันดับที่ 2 ของตารางคะแนนเหมือนเดิม ผ่านเข้ารอบไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับเวเนซุเอล่า ในเช้าวันศุกร์ที่ 25 มีนาคม 2565 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านโคลอมเบีย ร่วงมาอยู่อันดับที่ 7 ของตาราง โอกาสผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายที่กาตาร์ยังคงมีอยู่ นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับโบลิเวีย ในวันเวลาเดียวกัน