ราชัน ลุ้นเหนื่อย! ได้ เบนซ์,วินิซิอุส ซัดท้ายเกม เบียดชนะ ตราหมี 3-1 

นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง เรอัล มาดริด  กับ แอตเลติโก มาดริด ที่สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ใน ศึก โคปา เดล เรย์ (สเปน) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เรอัล มาดริด จะมาเล่นด้วยระบบ 4-3-3 นำโดยผู้เล่นชุดใหญ่ของทีมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ติโบต์ คูร์กตัวส์,เอแดร์ มิลิเตา,โทนี่ โครส,วินิซิอุส จูเนียร์,คาริม เบนเซม่า และ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ 

ขณะที่ แอตเลติโก มาดริด จะมาสู้ด้วยระบบ 4-2-3-1 นำมาโดยเสาหลักของทีมอย่าง ยาน โอบลัค,นาฮูเอล โมลิน่า,อ็องตวน กรีซมันน์,โรดริโก้ เด ปอล และ อัลบาโร โมราต้า เป็นต้น 

นาทีที่ 17

โอกาสจะแจ้งในเกมครั้งแรก ตกเป็นของ แอตมาดริด จากจังหวะที่  เด ปอล  จ่ายบอลให้ คอร์เรอา เติมมาซัดไกลนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งเรียดหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย 

นาทีที่ 19 แอตเลติโก มาดริด ขึ้นนำ 1-0

แอตมาดริด หลังจากบดอยู่นาน ในที่สุดพวกเขาก็พังประตูแรกใส่ เรอัล มาดริด จนได้ จากจังหวะที่ โกเก้ วางบอลยาวให้ โมลิน่า วิ่งหลุดไปขางขวา ก่อนที่แข้งอาร์เจนไตน์ จะเลือกปาดเรียดเข้ากลางให้ โมราต้า วิ่งมาแทปอินง่ายๆ ที่จุดนัดพบ ส่งบอลผ่านมือ คูร์กตัวส์ ตุงตาข่ายไม่มีเหลือ 

นาทีที่ 25

หลังจากตามหลัง เรอัล มาดริด ก็พยายามเร่งเครื่องเอาประตูคืน และเกือบทำได้เหมือนกัน จากจังหวะที่ บัลเบร์เด้ ได้ลองซัดลูกเก่งยิงไกลจากนอกกรอบฝั่งซ้าย แต่น่าเสียดายบอลสุดท้ายยังไม่ผ่านมือของ โอบลัค สกอร์ยัง 1-0 เท่าเดิม 

หมดครึ่งเวลาแรก 

เรอัล มาดริด – 0

แอตเลติโก มาดริด – 1

นาทีที่ 79 เรอัล มาดริด ตีเสมอ 1-1 

กลับมาต่อครึ่งหลัง มาดริด พับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียว จนสุดท้ายพวกเขาก็ยิงประตูคืนจนได้ จากจังหวะที่ โมดริช สลักตัวประกบจากกลางสนาม ก่อนจะไหลให้ โรดรีโก้ โชว์พริ้วเลี้ยงบอลฉีกแนวรับของ แอตมาดริด หลุดเข้าไปซัดบอลผ่านตัว โอบลัค เสียบเสาแรกตุงตาข่ายอย่าวสวย 

นาทีที่ 103 เรอัล มาดริด แซงนำ 2-1 

เข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษ เรอัล มาดริด ที่โมเมนตัมดีกว่า ก็มาพลิกแซงนำ 2-1 จนได้ จากจังหวะที่ อเซนซิโอ้ กระชากบอลไปจนถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะเปิดบอลยัดเข้ากลาง บอลขลุกขลิกไปมาสุดท้าย มาเข้าทางปืน เบนเซม่า ได้ยืนซัดจ่อๆ ไม่พลาดเป้า เรอัล มาดริด แซงนำ 2-1 

นาทีที่ 120+1 เรอัล มาดริด ยิงปิดกล่อง 3-1

แต่ยังไม่จบเท่านั้น นาทีท้ายของเกม เรอัล มาดริด ก็มาได้ประตูตอกฝาโลงเพิ่มอีกลูก จากจังหวะโซโล่เดี่ยวของ วินิซิอุส ที่เลี้ยงตัดเข้าในจากฝั่งซ้าย ลากเข้าไปยิงผ่านตัว ยาน โอบลัค เข้าประตูไปดื้อๆ ชนิดที่ว่าพุ่งยังไงก็ปัดไม่ถึง

หมดเวลาการแข่งขัน เป็น เรอัล มาดริด ที่พลิกสถานการณ์กลับมายิงแซงชนะ แอตมาดริด ช่วงต่อเวลาพิเศษไปได้ ด้วยผลสกอร์รวม 3-1