เกมการแข่งขันระหว่างเจ้าถิ่นทีม บาร์นสลี่ย์ (แชมเปี้ยนชิพ) เปิดสนาม โอ๊คเวลล์ ต้อนรับการมาเยือนของทีมสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี (พรีเมียร์ลีก) ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 5 เกมนี้เจ้าถิ่น บุกใส่ทีมเยือนจากลอนดอนได้อย่างสนุก แต่เปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้ สุดท้ายทีมเยือน มีความแน่นอนกว่า ยิงเฉือนเอาชนะไปได้ในที่สุด 1-0 !!!
เกมนี้เจ้าถิ่น บาร์นสลี่ย์ เล่นในระบบ 3-4-3 เปิดเกมรุกหวังล้มยักษ์เลยทีเดียว นำทีมโดย วิคเตอร์ อเดโบเยโจ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม ขณะที่ทางทีมเยือน เชลซี มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์ไดนาโม และ คริสเตียน พูลิซิช ปีกตัวจี๊ดชาวอเมริกัน
นาที 3
เจ้าถิ่น ได้ทักทายก่อน คอลี่ย์ วู้ดโรว์ ลองซัดไกลนอกกรอบเขตโทษ บอลเหินข้ามคานออกไป
นาที 8
เจ้าถิ่น คึกคักตั้งแต่ต้นเกม ต่อบอลกันครึ่งมาถึงหน้าเขตโทษ เฮอร์บี้ เคน ลองส่องไกลกว่า 30 หลา แต่บอลก็ผ่านเสาออกไปอีก
นาที 10
เจ้าถิ่น บาร์นสลี่ย์ เกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะ กระชากขึ้นมาทางขวาของ อเล็กซ์ โมวัตต์ ก่อนจะครอสเข้าไปที่กลางประตู คอเนอร์ แชปลิน โฉบมาโหม่ง แต่โดนไม่เต็ม บอลเลยมาถึง คัลลั่ม บริทเทน สอดมายิงจ่อๆที่เสาไกล แต่ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ผู้รักษาประตูทีมเยือนพุ่งมาขวางไว้ได้ทัน เกือบไปสำหรับเชลซี
นาที 20
ทีมเยือน เชลซี ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว บอลอยู่ที่ คริสเตียน พูลิซิช ทางฝั่งซ้าย เจ้าตัวกระชากไปเกือบสุดเส้นแล้วเปิดเลียดยัดเข้ามาตรงกลาง แทมมี่ อบราฮัม สอดมาชาร์จจ่อๆ แต่วืดไปนิดเดียว หวาดเสียวสุดๆ
นาที 24
ทีมเยือน บุกขึ้นมาทางขวา ฮาคิม ซิเย็ค ครอสบอลเร็วไปกลางประตู บอลกำลังจะถึง คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย ที่ยืนรอยิงโล่งๆ แต่ มิชาล เฮลิค กองหลังเจ้าถิ่น ล้มตัวสกัดไว้ได้หวุดหวิด
นาที 26
เจ้าถิ่น ตัดบอลได้ตรงกลางสนาม คอลี่ย์ วู้ดโรว์ ฉกบอลมาจาก อันเดรียส คริสเตนเซ่น ก่อนจะแทงบอลเร็วให้ อเล็กซ์ โมวัตต์ ลากเข้าไปยิงด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ แต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 33
เจ้าถิ่น บอมบ์ใส่ทีมเยือนอย่างหนัก อเล็กซ์ โมวัตต์ โยนโด่งเข้าไปที่หน้าประตู คัลลั่ม บริทเทน กำลังจะได้โหม่ง แต่ มาร์กอส อลอนโซ่ โขกตัดหน้าไปอย่างฉิวเฉียด
นาที 41
คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย หลุดกับดักล้ำหน้าขึ้นไปทางฝั่งขวา แล้วเปิดบอลโด่งไปยังเสาไกลทันที คริสเตียน พูลิซิช วิ่งมาล้มตัวยิง แต่ทำได้ไม่ดี บอลหลุดกรอบออกไปอีก
นาที 45
เจ้าถิ่น ได้เตะมุมทางฝั่งขวา เล่นลูกสูตร จ่ายสั้นๆมาให้ คอเนอร์ แชปลิน ไขว้ต่อมาให้ คัลลั่ม บริทเทน วิ่งมากดเน้นๆแบบไร้ตัวประกบ แต่บอลพุ่งหลุดเสาออกไปอย่างเหลือเชื่อ
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น ที่พยายามบุก และโยนโด่งใส่ทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง แต่ยังหาโอกาสเปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้ เสมอกันอยู่ 0-0 !!!
นาที 47
เจ้าถิ่น บุกใส่ตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง คอเนอร์ แชปลิน ได้ส่องไกลด้วยเท้าซ้ายระยะเกือบ 30 หลา แต่บอลก็อยากหลุดเสาออกไปไกล
นาที 58
ทีมเยือน บุกขึ้นมาทางซ้าย คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย ใช้ความสามารถเฉพาะตัว เลี้ยงพาบอลแหวกผู้เล่นเจ้าถิ่นไปสามคน ทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะหวดด้วยซ้ายไปเสาไกล บอลผ่านหน้าประตูออกไปอย่างได้ลุ้น
นาที 62
ทีมเยือน ได้ฟรีคิกทางฝั่งซ้าย ฮาคิม ซิเย็ค เปิดบอลโค้งเข้าไปในเขตโทษ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ วิ่งโฉบมาโหม่งเต็มๆที่เสาแรก แต่บอลเฉียดเสาออกไปนิดเดียว
นาที 65 GOAL!!!
ทีมเยือน เชลซี ได้ประตูออกนำ 1-0 !!! จากจังหวะ บิลลี่ กิลเมอร์ จ่ายบอลตัดแนวรับให้ รีซ เจมส์ หลุดไปทางฝั่งขวา เจ้าตัวครอสเลียดไปที่หน้าประตูทันที และเป็น แทมมี่ อบราฮัม สอดขึ้นมาชาร์จจ่อๆ เข้าไปอย่างง่ายดาย
นาที 73
คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย กระชากพาบอลขึ้นมาทางซ้าย ก่อนตัดเข้ากลาง แล้วลองปั่นด้วยขวานอกกรอบเขตโทษ บอลโค้งไม่พอ หลุดเสาไกลออกไป
นาที 78
เจ้าถิ่น เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ ลูกฟรีคิกทางด้านขวา อเล็กซ์ โมวัตต์ เปิดบอลยัดไปที่หน้าประตู เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ออกมาชกบอลไม่ดี บอลมาเข้าทาง มิคาเอล โซลล์เบาเออร์ ดีดบอลยิงทันที บอลกำลังจะลอยเข้าประตู แต่ แทมมี่ อบราฮัม โหม่งเสยเคลียร์ออกหลังไปอย่างหวุดหวิด
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน เชลซี ที่มีโชคเล็กๆ บุกมาเฉือนเอาชนะ บาร์นสลี่ย์ ไปได้แบบหืดจับ 1-0 !!! ผ่านทะลุเข้าสู่รอบต่อไป ไปพบกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด