อังกฤษ แผลงฤทธิ์! ไล่ขยี้ อิหร่าน หมดสภาพ 6-2 

นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง อังกฤษ  กับ อิหร่าน ที่สนาม คาลิฟา อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดี้ยม ในศึก ฟุตบอลโลก2022 (ทีมชาติ) เมื่อวันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ อังกฤษ จะมาเล่นด้วยระบบ 4-5-1 นำโดยสตาร์ดังล้นทีมเหมือนเดิมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น จอร์แดน พิคฟอร์ด,แฮร์รี่ แม็คไกวร์,ราฮีม สเตอร์ลิ่ง,บูกาโย่ ซาก้า และ จู้ด เบลลิ่งแฮม

ขณะที่ อิหร่าน จะมาสู้ด้วยระบบ 4-3-3 นำโดยแกนหลักของทีมอย่าง อาลีเรซา เบรานวานด์,มิลาด โมฮัมมาดี,เอห์ซาน ฮาจิ ซาฟี,อาหมัด นูรอลลาฮี และ อลิเรซา ยาฮันบัคช์ เป็นต้น

นาทีที่ 35  อังกฤษ ขึ้นนำ 1-0

ประตูแรกมาเกินขึ้นใน น.35 จากจังหวะที่ ลุค ชอว์ กระชากบอลหลุดไปทางซ้าย ก่อนจะเปิดไปหน้าประตูให้ เบลลิ่งแฮม  เทคตัวโหม่งที่จุดนัดพบ ส่งบอลพุ่งเสียบใต้คาน ไม่มีเหลือ 

นาทีที่ 42 อังกฤษ นำห่าง 2-0

อังกฤษ มาได้ประตูที่ 2 ต่อเนื่องในช่วงเวลาไม่ถึง10นาที จากจังหวะที่ ชอว์ ครอสบอลจากริมเส้นฝั่งซ้าย บอลไปตกใส่หัว แม็คไกวร์ ตั้งให้ ซาก้า ยืนวอลเลย์ด้วยซ้ายเต็มข้อ ส่งบอลพุ่งแสกหน้า เบรานวานด์ ตุงตาข่ายอย่างสวย 

นาทีที่ 45+2 อังกฤษ นำ 3-0

ช่วงทดเจ็บ อังกฤษ ก็มาได้ประตูที่3เพิ่มอีกลูกทก่อนพักครึ่ง จากจังหวะที่ เคน สปีดตามไปเก็บบอลทางขวา ก่อนจะกระชากบอลหนีตัวประกบ แล้วเปิดยัดเข้ากลางให้  ราฮีม สอดมาจิ้มบอลที่จุดนัดพบ ส่งบอลเบียดเสาสอง เป็นประตูอย่างสวย 

หมดครึ่งเวลาแรก

อังกฤษ –  3

อิหร่าน – 0

นาทีที่ 62 อังกฤษ นำ 4-0

กลับมาเล่นครึ่งหลัง อังกฤษ ก็ยังเดินหน้าทำประตูไม่หยุด ลูก4 ก็ได้เพิ่มจากจังหวะที่ ซาก้า เก็บบอลได้ในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะลากตัดเข้าใน ผ่านผู้เล่นของ อิหร่าน 4 คน จากนั้นเมื่อได้ช่องเจ้าตัวก็บรรจงปั่นด้วยซ้ายตามสูตร ส่งบอลตุงตาข่ายไม่มีเหลือ 

นาทีที่ 65 อิหร่าน ตีไข่แตก 4-1

อังกฤษ บุกเพลินไปหน่อย พลาดทีเดียว โดน อิหร่าน ตีไข่แตกจนได้ จากจังหวะที่ กูลิซาเดห์ จ่ายบอลทะลุช่องให้ ตาเรมี่ หลุดเข้าไปยิงตามน้ำแบบไม่จับในกรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งเสียบใต้คาน ชนิดที่ว่า พิคฟอร์ด หมดสิทธิ์เซฟ

นาทีที่  71 อังกฤษ หนีห่าง 5-1

อังกฤษ โดนยิงได้ไม่ทันไร พวกเขาก็ทวนคืนได้อีกแล้ว เมื่อ เคน โชว์สกิลดูดบอลลงอย่างเหนือในแดนคู่แข่ง ก่อนจะรีบจ่ายออกขวาให้ แรชฟอร์ด แตะบอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ล็อคหลบกองหลังหนึ่งที แล้วจัดการแปบอลสวนตัว ฮอสไซนี่ เข้าประตูไม่มีพลาด 

นาทีที่ 90 อังกฤษ ขึ้นนำ 6-1 

นาทีท้ายก่อนทดเวลา อังกฤษ ก็มาได้ประตูเพิ่มอีกลูก จากจังหวะที่ วิลสัน กระชากบอลหลุดเดี่ยวจากกลางสนาม ทะลุไปจนถึงหน้าประตู ก่อนจะใจกว้างเลือกเปิดเข้ากลางให้ กรีลิช แทปอินนิ่มๆ เป็นประตูอย่างสวย

นาทีที่ 90+13  อิหร่าน ทิ้งทวน 4-2

ก่อนหมดเวลา อิหร่าน มาได้ประตูปลอบใจเพิ่มลูกนึง จากจังหวะที่แนวรับของอังกฤษ ไปเหนี่ยว มิลาด โมฮัมมาดี ล้มลงในกรอบเขตโทษ เดือดร้อนต้องเช็ค varกันวุ่น สุดท้าย อิหร่าน ได้จุดโทษตามคาด แล้วก็เป็น ตาเรมี่ ที่สังหารลูกนี้ตุงตาข่าย ไม่มีเหลือ 

หมดเวลาการแข่งขัน เป็น อังกฤษ ที่เล่นได้เหนือกว่า ส่งผลให้พวกเขาเก็บสามคะแนนเต็มจาก อิหร่าน ได้ตามคาด ด้วยผลสกอร์รวม 6-2