อิเฮียนาโช่ ท็อปฟอร์ม ยิง+จ่าย ! ส่งจิ้งจอก เปิดบ้านตบ สเปอร์ส เละเทะไม่ไว้หน้า 4-1 

นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง เลสเตอร์ ซิตี้ กับ สเปอร์ส ที่สนาม คิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยม ในศึก พรีเมียร์ลีก (อังกฤษ) เมื่อวันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เลสเตอร์ ซิตี้ จะมาเล่นด้วยระบบ 4-2-3-1 นำโดยขาประจำของทีมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น แดนนี่ วอร์ด,วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น,เคียร์มัน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์,เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ และ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ 

ขณะที่ สเปอร์ส จะมาสู้ด้วยระบบ 3-4-3 นำโดยเสาหลักของทีมอย่าง เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์,จาเฟต ทังกานก้า,ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ก,แฮร์รี่ เคน และ ซน ฮึงมิน เป็นต้น 

นาทีที่ 14 สเปอร์ส ขึ้นนำ 1-0 

สเปอร์ส เป็นฝ่ายได้ประตูออกนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่มีโชคช่วยเล็กน้อยด้วย เมื่อ ซุตตาร์ เคลียร์บอลหน้าประตูผิดเหลี่ยม ส่งบอลพุ่งไปชนหน้าแข้งของ เบนตานคูร์ ปลิ้นเข้าประตูไปแบบงงๆ 

นาทีที่ 23 เลสเตอร์ ซิตี้ ตีเสมอ 1-1 

ผ่าน20นาทีของเกม เจ้าถิ่นที่เริ่มครองบอลได้เรื่อยๆ ก็มาพังประตูตีเสมอจนได้ เป็นจังหวะที่ เบนตานคูร์ อุตส่าช่วยทีมเคลียร์บอลจากเส้นประตูได้แล้ว แต่บอลยังไม่พ้นอันตราย ไปเข้าทาง เมนดี้ วิ่งมาตะบัดซัดเต็มข้อจากแถวสอง ส่งบอลพุ่งเป็นจรวดเสียบสามเหลี่ยมเสาสองตุงตาข่ายไม่มีเหลือ 

นาทีที่ 25 เลสเตอร์ นำห่าง 2-0 

จากนั้น โมเมนตัมก็เปลี่ยน กลายเป็น เลสเตอร์ ที่บุกมาทำประตูเพิ่มได้อีกครั้ง โดยใช้เวลาเพียงแค่ 2 นาทีจากลูกแรก จากจังหวะที่ เวาท์ ฟาส ทิ้งตัวสไลด์บอล ตัดหน้า เคน บอลพุ่งไปเข้าทาง อิเฮียนาโช่ ได้โต้กลับเร็ว ไหลบอลออกซ้ายให้ แมดดิสัน วิ่งเติมขึ้นมายิงโล่งๆ ในกรอบเขตโทษ ส่งบอลผ่านมือ ฟอสเตอร์ ตุงตาข่ายอย่างสวย 

นาทีที่ 45+4 เลสเตอร์ ขึ้นนำ 3-1

สกอร์ชักไหล ก่อนหมดเวลาไม่กี่นาที สเปอร์ส ก็มาพลาดเสียประตูที่ 3 เพอ่มอีกแล้ว จากจังหวะที่ อิเฮียนาโช่ เก็บบอลแถวสองได้ ก่อนจะลากจี้เข้าหาประตู ตีคู่ไปกับ ไดเออร์ ที่เอาแต่ถอยหลังอย่างเดียว สุดท้ายเมื่อเข้าระยะทำการ อิเฮียนาโช่ ก็เลือกยิงเล่นทาง ส่งบอลโค้งหนีมือ ฟอสเตอร์ ตุงตาข่าย เลสเตอร์ ขึ้นนำ 3-1 

หมดครึ่งเวลาแรก 

เลสเตอร์ ซิตี้ – 1

สเปอร์ส – 3

นาทีที่ 65 

กลับมาต่อครึ่งหลัง สเปอร์ส นอกจากรูปเกมที่ไม่ดีขึ้นแล้ว พวกเขาก็ต้องมาเสียตัวหลักอย่าง เบนตานคูร์ ไปอีก จากจังหวะปะทะหนัก เจ็บจนต้องปฐมพยาบาลกันานานหลายนาที สุดท้ายก็ฝืนไม่ไหว ต้องส่งสัญญาณให้เปลี่ยนตัว โอกาสจึงตกเป็นของ ปาเป้ มาตาร์ ซาร์ ที่ได้ลงไปเล่นแทน 

นาทีที่ 81 เลสเตอร์ ซิตี้ ยิงปิดกล่อง 4-1 

เกมทำท่าจะจบแค่ 3-1 อยู่รอมร่อ แต่สุดท้าย สเปอร์ส ก็ต้านไม่ไหว โดนฝังลูกที่ 4 จนได้ จากจังหวะที่ บาร์นส์ พลิกตัวหนีตัวประกบ จนมีช่องให้ลองส่องไกลนอกกรอบ เจ้าตัวเลยกดด้วยขวาเต็มข้อ ส่งบอลพุ่งหนีมือ ฟอร์สเตอร์ ที่ล้มตัวช้าเสียบเสาเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

หมดเวลาการแข่งขัน เป็น เลสเตอร์ ซิตี้ ที่โชว์ฟอร์มได้เหนือกว่าตลอดทั้งเกม ส่งผลให้พวกเขาเปิดบ้านเอาชนะ สเปอร์ส ไปได้ด้วยผลสกอร์รวม 4-1