เอลกลาซิโก้เดือด! มาดริด เปิดบ้านเฉือน “บาร์ซ่า” สุดมันส์

เกมการแข่งขัน ระหว่างเจ้าถิ่นทีมราชันชุดขาว เรอัล มาดริด เปิดสนาม เอสตาดิโอ อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน่ ต้อนรับการมาเยือนของทีมเจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลน่า ในศึกฟุตบอล ลา ลีกา สเปน เป็นเกม เอลกลาซิโก้ ศึกแห่งศักดิ์ศรีของสองคู่ปรับตลอดกาล แห่งฟุตบอลสเปน

เกมนี้ เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด มาเล่นในระบบ 4-3-3 แผนถนัด นำทีมโดย โทนี่ โครส มิดฟิลด์ห้องเครื่องตัวคุมจังหวะเกมทีมชาติเยอรมัน ลูก้า โมดริช เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งทีมชาติโครเอเชีย และ คาริม เบนเซม่า กองหน้าดาวซัลโวประจำทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน บาร์เซโลน่า มาเล่นในระบบ 3-4-2-1 นำทีมโดย เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ มิดฟิลด์ตัวรับเชิงสูงทีมชาติสเปน อุสมาน เดมเบเล่ กองหน้าจอมพลิ้วทีมชาติฝรั่งเศส และ ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าตัวเทพดาวซัลโวของทีม

นาที 12 GOAL!!!

โอกาสลุ้นที่ชัดเจนที่สุดของต้นเกม เป็นเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ก็ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 !!! เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว เฟเด้ บัลเบร์เด้ กระชากขึ้นมาเองตรงกลาง ก่อนจะไหลไปที่กรอบเขตโทษด้านขวาให้ ลูกัส บาซเกซ ตั้งป้อมบรรจงครอสเลียดไปที่เสาแรกให้ คาริม เบนเซม่า วิ่งมาไขว้ยิงตอกส้นด้วยขวาอย่างเหนือชั้น เบียดเสาแรกมุมแคบ เข้าประตูไปอย่างสวยงาม

นาที 16

ทีมเยือน บาร์เซโลน่า พยายามจะทวงประตูคืน ลิโอเนล เมสซี่ กระชากขึ้นมาทางซ้าย ก่อนจะครอสบอลไปที่หน้าประตู อุสมาน เดมเบเล่ ได้ขึ้นโขกสะบัดเต็มๆ แต่บอลก็หลุดกรอบออกไป

นาที 27 GOAL!!!

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะ ได้ฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย โทนี่ โครส วิ่งมาบรรจงปั่นไซด์โป้งด้วยขวาเน้นๆเต็มแรง บอลพุ่งไปตรงกลางประตูแฉลบ เซอร์จินโญ่ เดรสต์ เปลี่ยนทางไปที่เสาแรกซ้ายมือ จอร์ดี้ อัลบา ที่ยืนคุมเสาอยู่ ก็โหม่งเคลียร์ได้แค่ถากๆ บอลปลิ้นเข้าประตู ไปตุงตาข่าย

นาที 33

เจ้าถิ่น น่าจะได้ประตูหนีห่างแบบสุดๆ เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ลูก้า โมดริช เบิ้ลบอลเร็วจังหวะเดียวแทงให้ วินิซิอุส จูเนียร์ หลุดไปทางกราบซ้าย ก่อนจะกระชากมาถึงมุมกรอบเขตโทษ แล้วดีดบอลเปลี่ยนแกนมาที่ในเขตโทษฝั่งขวาให้ เฟเด้ บัลเบร์เด้ ได้กดด้วยขวาเน้นๆไปที่เสาไกล

บอลพุ่งไปชนเสาอย่างจังกระเด้งมาตรงกลางประตู ลูกัส บาซเกซ ได้ซ้ำดาบสอง ก็ไปตรงตัวของ มาร์ก อันเดร แทร์ ชเตเก้น ผู้รักษาประตูทีมเยือน ล้มตัวเซฟไว้ได้อีก

นาที 35

เจ้าถิ่น ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย โทนี่ โครส โยนบอลโด่งมาที่กลางประตู เฟเด้ บัลบาร์เด้ ได้วางเท้าวอลเลย์เต็มๆติดบล็อก บอลกระฉอกมาเข้าทาง เอแดร์ มิลิเตา ได้ซ้ำดาบสอง ก็ยังติดบล็อกอีกอย่างดี

นาที 45

ทีมเยือน เกือบได้ประตูตีตื้น เป็นจังหวะ ได้เตะมุมทางฝั่งขวา ลิโอเนล เมสซี่ บรรจง ปั่นโค้งด้วยซ้ายเข้ามาที่หน้าประตู บอลโค้งลอยโด่ง เลี้ยวมาชนเสาไกลซ้ายมือเต็มๆ ก่อนจะกระเด้งออกมา แบบน่าเสียดายสุดๆ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น กระโดดไปปัดไม่ถึงแล้วด้วย

นาที 45+2

ทีมเยือน น่าจะได้ประตูตีตื้นแบบสุดๆ เป็นจังหวะได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย อุสมาน เดมเบเล่ เปิดโด่งมาที่กลางประตู บอลโค้งเลยผู้เล่นไปหมด มาตกที่ ลิโอเนล เมสซี่ ที่หน้าเสาไกลขวามือ เจ้าตัวเอาบอลลงได้แล้วซัดด้วยซ้ายมุมแคบจ่อๆทันที แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น วิ่งมาปิดมุมไว้อยู่แล้ว ล้มตัวขวางไว้ได้ทัน

หมดเวลาครึ่งแรก เกมสนุกสูสี แต่เป็นเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ที่จังหวะสุดท้ายทำได้ดีกว่า ยิงออกนำทีมเยือน บาร์เซโลน่า ไปก่อนแล้วถึง 2-0 !!!

นาที 53

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด บุกขึ้นมาทางขวา คาริม เบนเซม่า ได้บอลจากจังหวะสวนกลับหลุดขึ้นมา ก่อนจะครอสเลียดมาในเขตโทษ โทนี่ โครส วิ่งเข้ามาตวัดยิงด้วยขวา แต่บอลก็ลอยโด่งข้ามคานออกไป แบบน่าผิดหวังสุดๆ

นาที 57

เจ้าถิ่น บุกขึ้นมาตรงกลาง เฟเด้ อัลเบร์เด้ จ่ายให้ คาริม เบนเซม่า ได้เลี้ยงจี้มาที่หน้ากรอบเขตโทษ เห็นช่องเลยซัดเร็วด้วยซ้าย แต่บอลก็พุ่งหลุดเสาไปแบบได้เสียวเหมือนกัน

นาที 59 GOAL!!!

ทีมเยือน บาร์เซโลน่า ได้ประตูตีตื้นไล่ขึ้นมาเป็น 2-1 !!! เป็นจังหวะที่ ลิโอเนล เมสซี่ ได้บอลทางกราบซ้าย ก่อนจะแทงบอลขนาดเส้นข้างให้ จอร์ดี้ อัลบ้า หลุดไปด้านซ้ายของกรอบเขตโทษ แล้วครอสบอลพุ่งมาที่เสาแรก อองตวน กรีซมันน์ กระโดดหลอกข้ามบอล บอลเลยมาตรงกลางประตูถึง ออสการ์ มินเกซ่า ได้ดีดด้วยขวา เข้าประตูไป

นาที 60

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ วินิซิอุส จูเนียร์ ครองบอลอยู่หน้ากรอบเขตโทษ ไหลออกมาทางซ้าย เพื่อทำชิ่ง 1-2 กับ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ ไหลบอลคืนให้เจ้าตัวหลุดเข้าไปเกือบสุดเส้นในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะปาดเลียดเข้ากลางแต่ไปแฉลบบล็อกของ ออสการ์ มินเกซ่า เปลี่ยนทางพุ่งไปชนโคนเสาแรกเต็มๆ กระเด้งออกมา อย่างน่าเสียดายสุดๆ

นาที 62

ทีมเยือน ขึงเกมรุกอย่างหนักอยู่ที่หน้ากรอบเขตโทษของเจ้าถิ่น จอร์ดี้ อัลบา แตะบอลย้อนคืนมาหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายให้ ลิโอเนล เมสซี่ ได้ดึงจังหวะทำชิ่ง 1-2 แทงบอลทะลุช่องคืนให้ เจ้าตัวหลุดไปถึงสุดเส้นฝั่งซ้ายในเขตโทษ ก่อนจะปาดเลียดยัดไปที่หน้าประตู แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น อ่านเกมได้ดี ออกมาตัดบอลเคลียร์ออกไปได้ก่อน ไม่งั้นผู้เล่นทีมเยือน ได้รอยิงจ่อๆที่เสาไกลแน่ๆ

นาที 68

เกมเริ่มเข้มข้น และเล่นกันหนักขึ้นเรื่อย ทั้งสองทีม ผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างสนุก แต่จังหวะพื้นที่สุดท้าย ยังจบสกอร์กันเพิ่มไม่ได้ เกมระอุขึ้นทุกทีตามสไตล์ของเอลกลาซิโก้

นาที 75

เจ้าถิ่น บุกขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า กระชากมาถึงสุดเส้นหลัง ก่อนจะเปิดโด่งไปที่กลางประตู บอลไต่หลังเท้าผิดเหลี่ยม แต่กลายเป็นดี ลอยโด่งย้อย กำลังจะเสียบคาน แต่ มาร์ก อันเดร แทร์ ชเตเก้น ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังถอยมาปัดออกหลังไว้ได้หวุดหวิด

นาที 82

มาร์โก อาเซนซิโอ้ ลากพาบอลขึ้นมาทางขวา ก่อนจะไหลมาตรงกลางให้ อิสโก้ ได้ลองบรรจงปั่นด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ บอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว

นาที 89 ใบแดง!!!

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่สิบคนในช่วงท้ายเกม คาเซมีโร่ ไปทำฟาล์วใส่ ออสการ์ มินเกซ่า ผู้ตัดสินแจกใบเหลืองที่สอง กลายเป็นใบแดง ไล่ออกจากสนามไป

นาที 90+3

ทีมเยือน พลาดโอกาสทองที่จะตีเสมอ แบบน่าเสียดายสุดๆ เป็นจังหวะ ได้ฟรีคิกบริเวณกลางสนามเยื้องๆไปทางซ้าย ลิโอเนล เมสซี่ โยนบอลโด่งไปวัดดวง ลึกไปที่เสาไกลขวามือถึง เกลม็อง ล็องเล่ต์ ได้โขกชงตั้งกลับมาตรงกลางประตูให้ อิไลซ์ โมริบา ได้วอลเลย์ด้วยขวาเน้นๆ บอลพุ่งชนคานสนั่นหวั่นไหว กระเด้งออกมาหน้าเขตโทษ มาร์ก อันเดร แทร์ ชเตเก้น ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ดันสูงขึ้นมา ก็ซ้ำติดบล็อกอีก

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ที่เปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมเยือน บาร์เซโลน่า ไปได้ 2-1 !!! เขยิบขึ้นมารั้งจ่าฝูงชั่วคราว แทนที่คู่ปรับร่วมเมืองอย่างทีมแอต มาดริด ที่จะมีคิวเตะในวันถัดมา โดยนัดต่อไปราชันชุดขาว ต้องออกไปเยือนทีมเคตาเฟ่ ส่วนทางด้าน บาร์เซโลน่า รั้งอันดับที่ 3 ของตารางคะแนน นัดต่อไปจะเปิดบ้านเจอกับทีมเคตาเฟ่ เช่นกัน แต่เตะทีหลังคนละวันกัน