“แมนฯซิตี้” บุกมาไล่ถล่มเอาชนะทีมลีกรอง “สวินดอน ทาวน์” ไปได้แบบสบาย ๆ 4-1!!

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น สวินดอน ทาวน์ (ลีกทู) เปิดสนาม เดอะ เคาน์ตี้ กราวน์ ต้อนรับการมาเยือนของทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ เมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ 7 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น สวินดอน ทาวน์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เบน การ์เนอร์ มาเล่นในระบบ 3-1-4-2 นำทีมโดย หลุยส์ รีด กองกลางห้องเครื่อง จอร์แดน ไลเด้น มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม และ ไทรีซ ซิมพ์สัน ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือชั่วคราวอย่าง โรดอลโฟ่ บอร์เรล มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย อิลคาย กุนโดกัน กองกลางตัวขับเคลื่อน เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์จอมแอสซิสต์ และ โคล พาล์มเมอร์ กองหน้าดาวรุ่งตัวจบสกอร์ของทีม

นาที 1

เปิดฉากมาได้ไม่ถึงนาที เป็นทางฝั่งทีมเยือน ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทักทายได้ลุ้นก่อน จากจังหวะที่ ไอ้หนู โคล พาล์มเมอร์ วัย 19 ปี โชว์ความเหนือชั้น ใช้สเต็ปดึงจังหวะบอลหลบผู้เล่นเจ้าถิ่น ก่อนจะวางเท้าบรรจงปั่นเร็วด้วยซ้ายเน้น ๆ ในเขตโทษฝั่งขวา ส่งบอลพุ่งไปแฉลบแนวรับสวินดอน ลอยโด่งหลุดออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม

นาที 5

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครองบอลบุกอยู่ฝ่ายเดียวตามคาด แถมมีโอกาสดีที่จะได้ประตูขึ้นนำ จังหวะนี้ ชูเอา คันเซโล่ เติมสูงขึ้นมาแตะบอลลอดขาคู่แข่ง หลุดมาถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสเลียดหักกลับไปที่กลางประตูให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ได้สอดมาวางเท้าหวดตามน้ำด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลเหินข้ามคาน ลอยโด่งออกหลังไปนิดเดียว ชนิดน่าผิดหวังสุด ๆ

นาที 13

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะนี้ ชูเอา คันเซโล่ ดันสูงขึ้นมารับบอลทางกราบซ้าย เจ้าตัวโยกแต่งเข้ากลางมาถึงหน้าหัวกระโหลก ก่อนจะตัดสินใจซัดหักข้อด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นไปถากเสาซ้ายมือ หลุดออกหลังไปแบบได้เสียว

นาที 14 GOAL!!!

ทีมเยือน ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! จากจังหวะความยอดเยี่ยมของเจ้าหนู โคล พาล์มเมอร์ โชว์ความพลิ้วล็อคหลบคู่แข่ง ก่อนจะกระชากหลุดเข้าไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งขวา แล้วปาดเลียถวายพานไปที่หน้าปากประตูโล่ง ๆ ให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ชาร์จจ่อ ๆ ระยะเผาขน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที 18

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ รูเบน ดิอาส วางบอลยาวจากแดนหลังไปที่หน้ากรอบคู่แข่ง แล้วเป็น เอกิ้น โอดิมาโย่ โหม่งสกัดผิดเหลี่ยม กลายเป็นแจกส้มหล่น ส่งบอลเข้าไปที่กลางประตูโล่ง ๆ ให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา วิ่งสอดมาซัดด้วยซ้ายจ่อ ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปเองอย่างไม่น่าเชื่อ

นาที 21

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกครองเกมบุกได้เหนือกว่าอย่างชัดเจนตามสไตล์ แถมยังไล่เพรสซิ่งบีบจนแข้งเจ้าถิ่นออกบอลกันผิดพลาด จังหวะนี้เกือบได้เม็ดที่สอง เมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ สบโอกาสได้ซัดเน้น ๆ หน้ากรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัวแต่ดันไปตรงตัวของ ลูวิส วอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้อย่างน่าเสียดาย

นาที 28 GOAL!!!

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! จากจังหวะความผิดพลาดของแนวรับเจ้าถิ่น จ่ายบอลหน้ากรอบตัวเองพลาดโดน กาเบรียล เชซุส ฉกแล้วทำชิ่ง 1-2 เร็วกับ เควิน เดอ บรอยน์ เบิ้ลทะลุช่องนิ่ม ๆ เข้าไปที่กลางประตูคืนให้เจ้าตัว ก่อนที่ศูนย์หน้าทีมชาติบราซิล จะแต่งบอลแล้วแปง่าย ๆ เสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 35

เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครอบบอลขึงเกมรุกบุกใส่เจ้าถิ่นได้อย่างต่อเนื่อง เคาะหาช่องกันไปมาแบบไม่รีบ ป้วนเปี้ยนอยู่แถว ๆ พื้นที่อันตรายแต่ยังจบแบบเหน่ง ๆ ไม่ได้ ทัพเรือใบทำได้แค่เสียว ยังไม่มีโอกาสบวกสกอร์เพิ่มให้แฟน ๆ ได้เห็น

นาที 45

ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้บวกสกอร์เม็ดที่สาม จากจังหวะ อิลคาย กุนโดกัน ไหลสั้น ๆ มาที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายตั้งให้กับ ชูเอา คันเซโล่ ได้วิ่งเติมสูงมาขอลองตะบันด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงไปเข้าหน้าต่างข้างตาข่าย หลุดออกหลังไปนิดเดียวแบบได้เสียว

หมดเวลาครึ่งแรก ทีมเยือน ทัพเรือใบสีฟ้า ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดตามสไตล์ถึง 77 เปอร์เซ็นต์ ยิงประตูออกนำไปก่อนแล้วเบา ๆ สองลูก ส่วนทางด้านเจ้าถิ่น แทบจะไม่ได้บุกเลยแม้แต่นิดเดียว สกอร์ตอนนี้ สวินดอน ทาวน์ 0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 !!!

นาที 53

เปิดฉากครึ่งหลังมา ยังคงเป็นฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นฝ่ายโหมบุกใส่เจ้าถิ่นอยู่เหมือนเดิม จังหวะนี้เจ้าหนู โคล พาล์มเมอร์ ที่วันนี้เล่นได้โดดเด่นเหลือเกิน รับบอลมาทางกราบขวา เจ้าตัวล็อคหนีตัวประกบลากตัดเข้ากลางมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะก้มหน้าหวดไกลด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลน้ำหนักแรงน่ากลัวไปแฉลบกองหลังนิดนึง ลอยฮุคลงแถมติดไซด์ก้อย พุ่งเฉียดสามเหลี่ยมเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวเท่านั้น

นาที 59 GOAL!!!

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! จากจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย ประมาณ 25 หลา หน้ากรอบเขตโทษเยื้อง ๆ ไปทางขวา แล้วเป็น อิลคาย กุนโดกัน รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นเลียดด้วยขวาเน้น ๆ อ้อมกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นผ่านมือ ลูวิส วอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น โค้งเบียดโคนเสาแรกขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 62 จุดโทษ!!!

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูเพิ่ม จากจังหวะ กาเบรียล เชซุส โดนทำฟาล์วเรียกจุดโทษให้ทัพเรือใบได้ ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นมารับหน้าที่สังหารเอง ทว่าศูนย์หน้าทีมชาติบราซิล ดันยิงไม่ดีซัดไปติดเซฟของ ลูวิส วอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น อดเพิ่มสกอร์ของตัวเองในเกมนี้อย่างน่าเสียดาย อดเพิ่มสกอร์ของตัวเองในเกมนี้ไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 74

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกขึ้นมาทางซ้าย จังหวะนี้ โคล พาล์มเมอร์ ได้บอลแล้วพลิ้วหลุดเข้าไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวดึงจังหวะโยกหาช่อง ก่อนจะเลือกไหลย้อนมาที่หน้าเขตโทษตั้งให้กับ เจมส์ แม็คอาที่ย์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้วิ่งซอยเท้ามาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยแต่มุดช้าไปหน่อย เหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย

นาที 75

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จวนเจียนจะได้เพิ่มอีกครั้ง จังหวะนี้ โคล พาล์มเมอร์ แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้กับ อิลคาย กุนโดกัน ได้ดึงจังหวะพลิกตัววิ่งสอดไปถึงบอลที่หน้าเสาแรก ก่อนจะตัดสินใจวางเท้ากดด้วยขวาหักข้อมุมแคบเน้น ๆ ส่งบอลทำท่าจะเสียบเสาขวามือเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น ลูวิส วอร์ด นายทวารเจ้าถิ่น ที่ยืนปิดมุมอยู่พอดี ผวาพุ่งไปปัดเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 76

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกอย่างเดียวไม่มีผ่อนเกม จังหวะนี้ โคล พาล์มเมอร์ เจ้าเก่า ติดเครื่องลากจี้เข้าไปในเขตโดยฝั่งขวา เจ้าตัวโยกหนีตัวประกบตัดเข้าใน ก่อนจะก้มหน้าซัดด้วยซ้ายเต็มข้อ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดแต่ไม่เข้าเป้า เหินเฉียดคาน ลอยหลุดออกหลังไปชนิดได้ลุ้น

นาที 78 GOAL!!!

ทำไปทำมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น สวินดอน ทาวน์ ที่มาได้ประตูตีไข่แตกเป็น 3-1 !!! จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วโต้กลับเร็ว จอนนี่ วิลเลี่ยมส์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา  เลี้ยงบอลจี้เข้าใส่แนวรับซิตี้มาถึงหน้สหัวกระโหลก ก่อนจะดีดบอลแทงทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ แฮร์รี่ แม็คเคอร์ดี้ ดาวยิงด้วยเก่ง ได้อาศัยความเร็ว สปีดวิ่งสอดไปแต่งบอล ตามด้วยซัดด้วยขวาเน้น ๆ มุมแคบสวนตัว แซค สเตฟเฟ่น ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 82 GOAL!!!

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูปิดกล่องเป็น 4-1 !!! จากจังหวะ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ลากตัดจากขวาเข้ากลางแล้วซัดเน้น ๆ ติดบล็อกเต็ม ๆ บอลกระดอนมาเข้าทาง โคล พาล์มเมอร์ ในเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวแต่งเข้าเหลี่ยมเท้าซ้าย ก่อนจะเอี้ยวตัวบรรจงปั่นไซด์โป้งเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยผ่านมือ ลูวิส วอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ไปชนคานกระเด้งเช็ดเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก

นาที 90

ก่อนหมดเวลา ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้บวกสกอร์เพิ่ม เป็นจังหวะ โรดนี้ วิ่งมาซัดไกลแถวสอง ตะบันด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดผ่านมือ ลูวิส วอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ไปชนคานอย่างจังสนั่นหวั่นไหว กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

หมดเวลาการแข่งขัน ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาไล่ถล่มเอาชนะเจ้าถิ่น สวินดอน ทาวน์ ไปได้ด้วยสกอร์ 4-1 !!! ผ่านเข้ารอบ 4 ของฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ โดยการจับสลากประกบคู่รอบที่สี่นั้น จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม 2565 ที่จะถึงนี้