ปาทริซ เอวร่า ตำนานแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยันตรงๆ ว่าตัวเองเป็นพวกที่ไม่เชื่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ชี้อาจเป็นเรื่องของการเมืองและผลประโยชน์ แถมหนักข้อเชื่อทฤษฎีสมคบคิดที่บอกว่า บิล เกตส์ เคยพูดเรื่องนี้มาก่อนแล้ว
อดีตกองหลังวัย 40 ปี ระบุต่อไปอีกว่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะไม่เข้าารับการฉีกวัคซีน และทุกคนควรเลิกสนใจการแพร่ระบาดของไวรัสได้แล้วในตอนนี้
เอวร่า กล่าวว่า “ในตอนนี้ ผมคิดว่าเรากำลังพูดถึงเรื่องโควิดนี้มากเกินไป”
“เราต้องตรงไปตรงมา มีคนที่เสียชีวิตจากโควิด แต่ผมก็ประหลาดใจว่าในทุกวันนี้ แม้คุณจะได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์ คุณก็จะบอกว่ามันเป็นเพราะคุณติดโควิด”
“สำหรับผมแล้ว มันคือการเมือง ผมพูดแบบนี้เสมอ “เมื่อคุณอยากปกครอง คุณต้องนำผู้คนด้วยควมกลัว” เราต้องระมัดระวังนะ”
“เรื่องนี้ต้องมาเถียงกัน (การฉีดวัคซีน) มันคือเรื่องส่วนตัว ผมไม่เข้าใจเมื่อมีคนพูดว่า “นายฉีดวัคซีนแล้วหรือยัง? นายยังไม่ฉีดวัคซีนเหรอ?” ทุกคนมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ”
“ผมหมายความว่า ตอนนี้มันต้องหยุดได้แล้ว “เพราะเขาไม่ฉีดวัคซีน เขาเลยเป็นคนเลว เพราะเขาฉีดซีน เขาเลยเป็นคนดี” ไม่เลย ทุกคนมีอิสระที่จะทำสิ่งที่ตัวเองต้องการ ทุกคนมีอิสระที่จะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาอยากเชื่อ”
“เราต้องปล่อยให้ประชาชนมีสิทธิ์ในการทำสิ่งที่พวกเขาต้องการ เพราะไม่มีใครทราบเรื่องนี้ดี เรื่องของโควิด ว่ามันมาจากไหน สำหรับผมแล้วมันคือเรื่องบังเอิญ เราจะไม่โกหกกันและกัน เรื่องโควิดนี้มันมาโดยไม่ทราบสาเหตุ”
เมื่อโดนจี้ให้อธิบายเพิ่มเติม เอวร่า เผยต่อไปว่า “เพราะบิล เกตส์ เป็นคนที่พูดเรื่องนี้ตอนคอนเฟอเรนซ์เมื่อปี 2013…จากนั้นผมไม่ใช่คนที่พูดว่าเรื่องนี้ถูกตั้งโปรแกรมขึ้นมา แต่ผมอยากที่จะ…หากมีคนพูดถึงมันในวันใดวันหนึ่ง เพราะผมพูดเรื่องนี้แบบตรงไปตรงมาเสมอ แต่สำหรับผมโดยส่วนตัวแล้ว ไม่ได้กลัวอะไรโควิดเลย”
ทั้งนี้ ทฤษฏีสมคบคิดที่เล่นงานบิล เกตส์ เป็นตอนที่เขาคาดหมายว่าจะเกิดการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสในอนาคต (โคโรนาไวรัสเป็นชื่อของกลุ่มไวรัส ไม่ใช่แค่ โควิด-19) ก่อนโดนโยงว่าเขาทราบล่วงหน้าว่าจะมีการแพร่ระบาด และอาจเป็นแผนการควบคุมโลกด้วยการทำให้คนตายา และมีการฉีดวัคซีน เพื่อฝังไมโครชิปควบคุมมนุษย์