เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น เวโรน่า เปิดสนาม สตาดิโอ มาร์กอันโตนิโอ เบนเตโกดี้ ต้อนรับการมาเยือนของทัพงูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน ในศึกฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น เวโรน่า ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ยูเซบิโอ้ ดิ ฟรานเชสโก้ มาเล่นในระบบ 3-4-2-1 นำทีมโดย อิวาน อิลิช กองกลางห้องเครื่อง มัตเตีย ซัคคายี่ เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม และ อันโตนิน บารัค กองหน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือป้ายแดง ซิโมเน่ อินซากี้ มาเล่นในระบบ 3-5-1-1 นำทีมโดย นิโกโล่ บาเรลล่า กองกลางห้องเครื่อง มาร์เซโล่ โบรโซวิช เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม และ เลาทาโร่ มาร์ติเนซ ศูนย์ตัวจบสกอร์ของทีม
นาที 12
เปิดฉากเกมมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน แชมป์เก่า อินเตอร์ มิลาน ที่ได้ทักทายก่อนเลย เป็นจังหวะ อิวาน เปริซิช ได้บอลหลุดมาถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะพยายามเปิดเข้ากลางแต่ติดบล็อก บอลกระดอนกลับมาเข้าทางเจ้าตัวอีกครั้ง คราวนี้ปาดเลียดมาที่เสาแรกให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ได้จับหนึ่งที แล้วซัดเร็วด้วยขวาไปติดเซฟของ โลเรนโซ่ มอนติโป ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่วิ่งมาปิดมุมได้ไว ทิ้งตัวขวางเอาไว้ได้ทัน
นาที 15 GOAL!!!
เจ้าถิ่น เวโรน่า มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 !!! เป็นจังหวะความผิดพลาดของแนวรับทีมเยือน เริ่มที่ ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ผู้รักษาประตูอินเตอร์ มิลาน เจตนาจะจ่ายบอลสั้นขึ้นมาที่หน้าเขตโทษตัวเองให้ มาร์เซโล่ โบรโซวิช แต่โดน อิวาน อิลิช ฉกไปได้ ก่อนที่เจ้าตัวจะลากบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปชิพบอลด้วยซ้ายข้ามตัว ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่ายอย่างเหนือชั้น แซงขึ้นนำแบบสุดช็อค
นาที 23
ทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมา จังหวะนี้ มาร์เซโล่ โบรโซวิช วางบอลยาวออกไปทางริมเส้นฝั่งซ้ายให้ ฮาคาน ชัลฮาโนกลู เจ้าตัวมีเวลาได้บรรจงหยอดบอลโด่งเข้าไปที่กลางประตูให้ นิโกโล่ บาเรลล่า ได้วิ่งโฉบตัดหน้ากองหลัง มาขึ้นไปโขกสะบัดเน้น ๆ คนเดียว ทว่าบอลพุ่งย้อนศร เฉียดเสาแรกซ้ายมือ หลุดออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น
นาที 39
ทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ เอดิน เชโก้ กระชากพาบอลพลิ้วขึ้นมาเองถึงเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะล็อคกลับมาแล้วเปิดด้วยซ้ายลอยโด่งลึกไปที่เสาไกลให้ อิวาน เปริซิช ได้โฉบมาโหม่งตั้งเข้ากลางให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ได้เทคตัวขึ้นโหม่งเบียดกับ โลเรนโซ่ มอนติโป ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น จนทำให้นายทวารเจ้าถิ่นรายนี้ รับบอลพลาด ส่งบอลเข้าประตูตัวเองไปแบบงง ๆ ทว่าผู้ตัดสินเป่าย้อนให้เป็นจังหวะฟาวล์ของ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ไปก่อนแล้ว ทำให้ไม่ได้ประตูตีเสมอ เฮเก้อกันไป
นาที 42
เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น เวโรน่า ที่เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะทำเกมเร็วขึ้นมาถึง อันโตนิน บารัค ได้บอลหลุดมายังกรอบเขตโทษด้านขวา เจ้าตัวพยายามจะเปิดแต่โดนขวาง สุดท้ายไหลกลับหลังมาที่หน้าเขตโทษตั้งให้ เฟเดริโก้ เชคเครินี่ ที่ดันสูงตามขึ้นมา ได้วิ่งปรี่ไปแปด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งแรงเฉียดคาน หลุดออกไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 45+1
ทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน พยายามบุกอย่างหนัก เพื่อจะตีเสมอให้ได้ก่อนจบครึ่งแรก จังหวะนี้ทิ้งยาวมาให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ได้เก็บบอลเอาไว้กับตัว ดึงจังหวะรอเพื่อน เจ้าตัวไหลต่อมาที่หน้าเขตโทษให้ มาร์เซโล่ โบรโซวิช ได้แต่งบอลหาช่อง ก่อนจะขอลองสับไกด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งแรง เหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปเหมือนเดิม
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น เวโรน่า ที่ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของแนวรับทีมเยือน ยิงประตูขึ้นไปก่อนอย่างรวดเร็ว แล้วหลังจากนั้นยังสามารถยันเกมรุกของอินเตอร์ มิลาน เอาไว้ได้จนถึงตอนนี้ สกอร์ในขณะนี้ เวโรน่า 1 อินเตอร์ 0 !!!
นาที 47 GOAL!!!
เปิดฉากครึ่งหลังมาได้แค่แปปเดียว เป็นทางฝั่งทีมเยือน งูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน ที่มาทวงประตูไล่ตีเสมอได้สำเร็จเป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะเริ่มที่ อิวาน เปริซิช ทุ่มไกลจากบริเวณกรอบเขตโทษด้านซ้าย ลอยโด่งเข้าไปที่เสาแรกให้ เอดิน เชโก้ ได้โฉบมาโหม่งเสย เช็ดต่อไปที่กลางประตูตั้งให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ได้โหม่งจ่อ ๆ คนเดียวโบ่ง ๆ แสกหน้า โลเรนโซ่ มอนติโป ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม เป็นประตูที่ 50 รวมทุกรายการ ในสีเสื้ออินเตอร์ มิลานของเจ้าตัวอีกด้วย
นาที 55
ทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน เกือบได้ประตูพลิกแซงขึ้นนำ เป็นจังหวะทุ่มไกลทางฝั่งซ้ายอีกแล้ว อิวาน เปริซิช คนเดิม ทุ่มโด่งมาที่เสาแรกเหมือนเดิมให้ เอดิน เชโก้ เจ้าตัวโหม่งเช็ดแบบเดิมเป๊ะ ๆ เข้ากลางไปให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ได้วิ่งมาวอลเลย์ด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้น เฉียดเสาแรกซ้ายมือ หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 66
ทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน ดันสูงกันขึ้นมาขึงเกมรุกอยู่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะนี้เกือบจะได้ประตูขึ้นนำอยู่เหมือนกัน เมื่อ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ไหลบอลมาให้ อเลสซานโดร บาสโตนี่ เจ้าตัวลากจี้ขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษด้านซ้าย โยกหาเหลี่ยม ก่อนจะเห็นช่องแล้วซัดเลียดด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้น ทำท่าจะเสียบโคนเสาไกลขวามืออยู่แล้ว แต่เป็น โลเรนโซ่ มอนติโป ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาพุ่งไปปัดเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว
นาที 68
ทัพเนรัซซูรี่ ได้ลุ้นอีกครั้ง เป็นจังหวะ มัตเตโอ ดาร์เมียน ดันสูงขึ้นมา ได้บอลหลุดมาทางกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะครอสบอลโค้งไปที่หน้าปากประตู แล้วเป็น อเลสซานโดร บาสโตนี่ ได้สอดมาขึ้นโขกเน้น ๆ แต่บอลไม่หนีมือเท่าไหร่ โลเรนโซ่ มอนติโป ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น พุ่งไปปัดออกหลัง ได้เป็นเตะมุม
นาที 69
จังหวะต่อเนื่อง ทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน ได้เตะมุม ฮาคาน ชัลฮาโนกลู บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปเข้าเข้าหัว อาร์ตูโร่ วิดาล ได้เทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ แต่บอลก็ดันไปตรงตัวของ โลเรนโซ่ มอนติโป ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับไวได้สบาย อีกครั้งหนึ่ง
นาที 74
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ซิโมเน่ อินซากี้ กุนซือมาดเท่ของทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน เริ่มนั่งไม่ติด ต้องปรับหมากแก้เกมด้วยการถอดเอา เลาตาโร่ มาร์ติเนซ คนทำประตูตีเสมอออกไปพักที่ข้างสนาม แล้วจัดการส่ง ฮัวกิน คอร์เรอา แข้งตัวใหม่ที่เพิ่งได้มาจากลาซิโอ้ ลงมาประเดิมสนามเป็นนัดแรก หลังเพิ่งลงซ้อมกับทีมได้แค่วันเดียว
นาที 80
ทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน โหมบุกใส่เจ้าถิ่นอย่างหนัก จังหวะนี้ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย เฟเดริโก้ ดิมาร์โก เปิดบอลโด่งโค้งสวยเข้าไปที่กลางประตูให้ เอดิน เชโก้ ได้เบียดเอาชนะตัวประกบ เทคตัวขึ้นโหม่งเน้น ๆ แต่ก็ยังกดไม่ลง ส่งบอลเหินข้ามคานออกไป
นาที 84 GOAL!!!
ทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน ได้ประตูพลิกแซงขึ้นนำเป็น 2-1 !!! เป็นจังหวะสวนกลับเร็วขึ้นมาทางขวา มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน สปีดมาเอาบอลแทงทะลุช่อง ได้หลุดไปถึงเกือบสุดเส้น ก่อนจะครอสบอลโด่งเข้าไปที่กลางประตูให้ ฮัวกิน กอร์เรอา ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้ขึ้นโขกเหน่ง ๆ ส่งบอลเสียบเสาแรกขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม เปิดซิงประตูแรกให้ตัวเองได้สำเร็จอย่างรวดเร็ว
นาที 90+4 GOAL!!!
ทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน มาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะเป็น 3-1 !!! เป็นจังหวะเหมือนจะไม่มีอะไร ต่อบอลทำชิ่งเร็วกันขึ้นมาตรงกลาง นิโกโล่ บาเรลล่า จ่ายบอลเลียดยัดมาที่หน้าหัวกระโหลกให้ ฮัวกิน คอร์เรอา ได้พลิกบอลแต่งเข้าซ้าย ก่อนจะบรรจงซัดเลียดเน้น ๆ พุ่งแรงกระดอนพื้นหนีมือ โลเรนโซ่ มอนติโป ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เสียบโคนเสาขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเฉียบคม
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน ที่บุกมาเอาชนะเจ้าถิ่น เวโรน่า ไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 !!! เก็บชัยชนะได้สองนัดรวด มี 6 คะแนนเต็ม รั้งจ่าฝูงของตารางคะแนนในขณะนี้ โดยนัดต่อไปจะออกไปเยือนซามพ์โดเรีย ในคืนวันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านเวโรน่า ร่วงมาอยู่ที่ 19 ของตารางคะแนน นัดต่อไปต้องออกไปเยือนโบโลญญ่า ในวันเวลาเดียวกัน