ชิคเหมาคนเดียวสองประตู!! “เลเวอร์คูเซ่น” บุกมาไล่ถล่ม “บีเลเฟลด์” ไปแบบขาดลอย 4-0

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพพวกสีน้ำเงิน อาร์มีเนีย บีเลเฟลด์ เปิดสนาม ชูโก้ อารีน่า, เมืองบีเลเฟลด์ ประเทศเยอรมัน ต้อนรับการมาเยือนของทัพห้างขายยา ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในศึกฟุตบอล บุนเดสลีก้า เยอรมัน นัดที่ 7 เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 03 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา 

เกมนี้ เจ้าถิ่น อาร์มีเนีย บีเลเฟลด์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ แฟร้งค์ คราเมอร์ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย อเลสซานโดร ช็อปฟ์ กองกลางห้องเครื่อง โรบิน แฮ็ก ปีกตัวจี๊ด และ ฟาเบียน คลอส กองหน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ภายใต้การคุมทีมของกุนซือป้ายแดง เคราร์โด เซโออาเน่ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน นำทีมโดย เคเรม เดเมียร์บาย เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม มุสซ่า ดิยาบี้ ปีกจอมลากเลื้อย และ พาทริค ชิค ศูนย์หน้าดาวซัลโวของทีม

นาที 4

เริ่มเกมมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะ ฟลอเรียน เวิร์ทซ์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสไปที่กลางประตูให้ พาทริค ชิค ได้เอี้ยวตัววอลเลย์ด้วยซ้ายเน้น ๆ ตูมเดียว ลอยหลุดกรอบออกไปไหนไม่รู้

นาที 16

เจ้าถิ่น อาร์มีเนีย บีเลเฟลด์ ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ ลูกทุ่มทางกราบขวามาให้ เซดริก บรูนเนอร์ เติมสูงขึ้นมา ได้บรรจงเปิดบอลโค้งไปที่หน้าประตูให้ มาซายะ โอกุงาวะ สอดมาโขกเหน่ง ๆ แต่บอลเบาแถมไม่หนีมือเท่าไหร่ ลูคัส ฮราเดชกี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ขยับมาคว้าเอาไว้ได้ทัน

นาที 17

ทีมเยือน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 !!! เป็นจังหวะบล็อกลูกยิงไกลได้แล้วสวนกลับเร็ว อาร์มิน อัดลี่ แทงบอลไซด์ก้อยเร็วออกไปทางกราบขวาให้ ฟลอเรียน เวิร์ทซ์ ได้ลากมาปาดเลียดต่อไปที่หัวกระโหลกให้ พาทริค ชิค จับบอลลั่นเลยไปแฉลบแนวรับเจ้าถิ่น กระดอนมาที่หน้าเสาไกลซ้ายมือเข้าทาง มุสซ่า ดิยาบี้ วิ่งสอดมาจิ้มด้วยซ้ายโล่ง ๆ พุ่งลอดหว่างขาของ สเตฟาน ออร์เตก้า โมเรโน่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที 19

เจ้าถิ่น อาร์มีเนีย บีเลเฟลด์ เกือบได้ประตูตีเสมอทันควัน เป็นจังหวะทุ่มไกลจากทางกราบขวา ลอยโด่งเข้าไปในเขตโทษโดน โยนาธาน ทาห์ โหม่งสกัดไม่ดีมาเข้าทาง มานูเอล พรีเทิ่ล แปะบอลจังหวะเดียวยัดมาบริเวณจุดโทษให้ แพทริก วิมเมอร์ ที่ยืนหันหลังให้ประตู ตอกส้นกลับหลังยิงเร็ว กลิ้งลอดหว่างขาของ มาซายะ โอกุงาวะ พวกเดียวกัน เข้าประตูไป ทว่าผู้ตัดสินได้รับสัญญาณ VAR ก่อนจะวิ่งไปดู สุดท้ายกลับลงมาริบประตูคืนเพราะนักเตะชาวญี่ปุ่นอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า แถมโดนบอลนิดนึงด้วย

นาที 24 GOAL!!!

ทีมเยือน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วตรงกลางสนาม  ฟลอเรียน เวิร์ทซ์ ทำชิ่ง 1-2 กับเพื่อน เจ้าตัวลากบอลต่อขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะแทงทะลุช่องคิลเลอร์พาสให้ พาทริค ชิค ได้วิ่งสอดไปแตะบอล หลุดเดี่ยวไปจิ้มด้วยซ้ายเล่นทางนิ่ม ๆ ที่หน้าเสาแรกขวามือ บอลพุ่งสวนตัว สเตฟาน ออร์เตก้า โมเรโน่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ซุกกันตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 30

ทีมเยือน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะนี้ ฟลอเรียน เวิร์ทซ์ ไหลสั้น ๆ ให้ พาทริค ชิค ได้ขอลองส่องไกลเน้น ๆ เต็มข้อหน้าเขตโทษ บอลพุ่งแรงน่ากลัวแถมตรงกรอบ เดือดร้อนถึง สเตฟาน ออร์เตก้า โมเรโน่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ต้องออกแรงเซฟ ปัดออกมาได้หวุดหวิด แล้วเป็น โยอาคิม นิลส์สัน หวดเคลียร์ทิ้งได้ทัน

นาที 32

เจ้าถิ่น อาร์มีเนีย บีเลเฟลด์ นาน ๆ จะได้ลุ้นสักที จังหวะนี้ ได้เตะมุมทางฝั่งขวา โรบิน แฮ็ก เปิดบอลโด่ง โค้งสวยมาที่กลางประตู แล้วเป็น ฟาเบียน คลอส ได้โฉบมาเทคตัวขึ้นโขกคนเดียว แต่เจ้าตัวกดไม่ลงแถมโดนไม่เต็มเท่าไหร่ บอลหลุดกรอบ เหินข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้นเลย

นาที 34

ทีมเยือน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น น่าจะได้ประตูที่สามแบบสุด ๆ เป็นจังหวะตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว มุสซ่า ดิยาบี้ กระชากพาบอลขึ้นมาเองจากกลางสนาม เจ้าตัวแทงทะลุช่องให้ เฌเรมี่ ฟริมปง ที่เติมสูงขึ้นมา ได้หลุดไปเอาบอลที่สุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะครอสเข้าไปที่กลางประตูคืนให้ ดิยาบี้ สอดตามขึ้นมาชาร์จโล่ง ๆ แต่โดยไม่ดี หลุดกรอบออกไปอย่างไม่น่าให้อภัย

นาที 45+2

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก ทีมเยือน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาได้ลุ้นส่งท้าย จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วโต้กลับเร็ว ฟลอเรียน เวิร์ทซ์ โชว์ความพลิ้ว เลี้ยงแหวกผู้เล่นเจ้าถิ่นขึ้นมาเองได้สวย ก่อนจะตัดสินใจกดด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียว

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทางฝั่งทีมเยือน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เป็นฝ่ายปูพรมขึงเกมรุก บุกใส่เจ้าถิ่น อาร์มีเนีย บีเลเฟลด์ อยู่แทบจะฝั่งเดียว แถมได้ประตูขึ้นนำไปก่อนแล้วถึง 2-0 !!!

นาที 49

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทีมเยือน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะโยนยาวเข้าเขตโทษแล้วโดน เลนนาร์ท ซีบอร์ร่า สกัดเคลียร์ไม่ดีลอยออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง ฟลอเรียน เวิร์ทซ์ วิ่งมาซัดสวนกลับเข้าไปแฉลบแนวรับเจ้าถิ่น หลุดออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม

นาที 57 GOAL!!!

ทีมเยือน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 3-0 !!! เป็นจังหวะ การทำชิ่งต่อบอลกันขึ้นมาทางกราบขวาหลุดมาถึง เฌเรมี่ ฟริมปง ที่สุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนที่เจ้าตัวจะครอสบอลโด่งมาที่หน้าเสาแรกให้ พาทริค ชิค วิ่งโฉบตัดหน้าแนวรับเจ้าถิ่น สอดมาโหม่งสะบัดเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมขวามือเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม สเตฟาน ออร์เตก้า โมเรโน่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ทำได้แค่หันมอง

นาที 64

ทีมเยือน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่นเหมือนเดิม จังหวะนี้ อาร์มิน อัดลี่ แทงบอลทะลุช่องให้ คาริม เบลลาราบี้ ได้หลุดเข้าไปซัดเน้น ๆ ในเขตโทษ ทว่าบอลไปตรงตัวของ สเตฟาน ออร์เตก้า โมเรโน่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยืนตำแหน่งได้ดี ปัดทิ้งออกมาได้ทัน

นาที 69

เจ้าถิ่น อาร์มีเนีย บีเลเฟลด์ ได้บุกขึ้นมาได้ลุ้นบ้าง จังหวะนี้ ฟาบิโอ คุนเซ่ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสโด่งเข้าไปที่กลางประตูให้ ฟาเบียน คลอส ได้โฉบมาเทคตัวขึ้นโหม่งเน้น ๆ ทว่าบอลไม่หนีมือเท่าไหร่ ลูคัส ฮราเดชกี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เขยิบมาคว้าเอาไว้ได้ทัน

นาที 81

ทีมเยือน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ นาดีม อามิรี่ ไหลบอลมาที่หน้าหัวกระโหลกให้ อาร์มิน อัดลี่ ได้ลองส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ หน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่ทิศทางยังไม่เข้าเป้า ลอยหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 89

ทีมเยือน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น สวนกลับเร็วขึ้นตรงกลางสนาม อาร์มิน อัดลี่ แทงบอลตามช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ คาริม เบลลาราบี้ ได้ตั้งป้อมซัดด้วยขวาเต็มข้อยัดมุมแคบไปที่เสาแรกตืดเซฟของ สเตฟาน ออร์เตก้า โมเรโน่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ปัดออกมาที่กลางประตู อัดลี่ เจ้าเก่าเกือบได้ซ้ำ ยังดีกองหลังเจ้าถิ่นมาช่วยเคลียร์ได้ทัน

นาที 90+1 GOAL!!!

ทีมเยือน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาได้ประตูปิดกล่องเป็น 4-0 !!! เป็นจังหวะต่อเนื่องที่แนวรับเจ้าถิ่นเคลียร์บอลไม่ขาด โฟลเรียน ครูเกอร์ ตัวสำรองของเจ้าถิ่นที่เพิ่งลงมาเก็บได้ ก่อนจะพยายามเลี้ยงหนี คาริม เบลลาราบี้ แล้วมือดันไปฟาดโดนหน้าคู่กรณีเต็ม ๆ จนล้มลงไปนอนในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าหยุดเกมก่อนจะขอเช็ค VAR สุดท้ายกลับลงมาให้จุดโทษกับทีมเยือน แล้วเป็น คาริม เบลลาราบี้ ลุกขึ้นมารับหน้าที่สังหารเอง ซัดเข้าประตูไป ไม่พลาด

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น บุกมาไล่ถล่มเจ้าถิ่น อาร์มีเนีย บีเลเฟลด์ ไปได้แบบเละตุ้มเป๊ะ 4-0 !!! เขยิบขึ้นมารั้งรองจ่าฝูงของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับบาเยิร์น มิวนิค ในตฃคืนวันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านอาร์มีเนีย บีเลเฟลด์ อยู่อันดับที่ 16 ของตาราง นัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนเอาก์สบวร์ก ในวันเดียวกันแต่คนละเวลา