บุกลิ้นห้อย! “เรอัล มาดริด” เปิดบ้านพับสนามบุก แต่จบเสมอ “โอซาซูน่า” 0-0

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด เปิดสนาม เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว, กรุงมาดริด ประเทศสเปน ต้อนรับการมาเยือนของทีม โอซาซูน่า ในศึกฟุตบอล ลาลีก้า สเปน เมื่อค่ำคืนวันพุธที่ 27 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย คาร์ลอส คาเซมิโร่ กองกลางตัวรับจอมขยัน โทนี่ โครส มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม และ คาริม เบนเซม่า ดาวยิงตัวความหวังสูงสุดของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน โอซาซูน่า ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ จาร์โกบ้า อาร์ราซาเต้ มาเล่นในระบบ 5-3-2 นำทีมโดย ลูคัส ตอร์โร่ กองกลางห้องเครื่อง ฆอน มอนกาโยล่า ปีกตัวจี๊ด และ กิเก้ การ์เซีย ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม 

นาที 16

โอกาสลุ้นยิงประตูแบบจะแจ้งครั้งแรกของเกม เป็นของทางฝั่งเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด จากจังหวะที่ ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษเยื้อง ๆ ไปทางซ้าย แล้วเป็น คาริม เบนเซม่า ที่รับอาสา วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง ทว่าบอลยังไม่เข้าเป้า พุ่งเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกล

นาที 20

ทีมเยือน โอซาซูน่า ได้โอกาสลุ้นทักทายบ้าง จังหวะนีั ได้ฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งซ้าย ฆาบี้ มาร์ติเนซ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปในเขตโทษให้ ดาวิด การ์เซีย ได้เทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ แต่บอลก็ยังไม่เข้าเป้าเหมือนกัน ลอยถากเสาหลุดออกหลังไปไกล

นาที 22

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ มาร์โก อเซนซิโอ้ พลิกบอลจากกลางสนาม กระชากขึ้นมาเองได้สวยถึงหน้ากรอบ เจ้าตัวแทงทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า วิ่งสอดหลุดไปซัดเร็วด้วยขวาตามน้ำ ส่งบอลถากเสาแรก หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 30

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ เอแดร์ มิลิเตา ดันสูงขึ้นมาเอากับเค้าด้วย เจ้าตัวรับบอลที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะขอลองวางเท้าส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่ยังไม่หนีตัวเท่าไหร่ เซร์คิโอ เอร์เรร่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังยืนตำแหน่งได้ดี เขยิบมาทุบทิ้งออกไปได้ทัน

นาที 31

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด น่าจะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ วินิซิอุส จูเนียร์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวลากจี้เข้าหาตัวประกบตัดเข้าใน ก่อนจะโยกหนีแต่งเข้าขวา ตามด้วยปั่นเร็วเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปแฉลบบล็อก ลอยเฉียดเสาสอง หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวเท่านั้น

นาที 36

ทีมเยือน โอซาซูน่า เกือบได้ประตูขึ้นนำเหมือนกัน จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย ฆาบี้ มาร์ติเนซ เปิดโด่งเข้าไปลุ้นในเขตโทษ บอลลอยไปเข้าทางตกใส่ขาของ กิเก้ การ์เซีย ปลิ้นกระดอนพื้นเฉียดเสาไกล หลุดออกหลังไปนิดเดียว อย่างน่าเสียดาย

นาที 37

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ แฟร์กล็อง เมนดี้ เติมเกมสูง ทำชิ่งหลุดขึ้นมาทางกราบซ้าย เจ้าตัวจ่ายเข้ากลางมาที่หน้าเขตโทษต่อให้ โทนี่ โครส ได้แต่งหนึ่งที ก่อนจะได้ช่องแล้วตะบันด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดแถมติดส่าย ทว่าก็ยังไม่หนีมือเท่าไหร่ เซร์คิโอ เอร์เรร่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังผวาพุ่งเซฟเอาไว้ได้ทัน

นาที 38

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริดได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ คาเซมิโร่ ดันสูงขึ้นมารับบอล เจ้าตัวแต่งได้เหลี่ยม ก่อนจะขอลองส่องไกลด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่ทิศทางก็ยังไม่เข้าเป้า ลอยหลุดกรอบออกหลังไปอีกครั้งหนึ่ง

นาที 41

ทีมเยือน โอซาซูน่า ได้ลุ้นประตูเรื่อย ๆ เหมือนกัน จังหวะนี้ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เล่นลูกสูตรจ่ายสั้นมาที่ ชิมี่ อาวิล่า ได้ไหลตามช่องให้ กิเก้ การ์เซีย วิ่งสอดตัดหลังแนวรับเข้าไปซัดเร็วด้วยขวาในกรอบเขตโทษ ทว่าเจ้าตัวหวดโดนใต้ลูกมากไปหน่อย สุดท้ายบอลพุ่งเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกล

นาที 43

ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด มีโอกาสได้ลุ้นประตูส่งท้าย จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เล่นลูกสูตรจ่ายสั้นมาที่บริเวณมุมกรอบเขตโทษให้กับ ดานี่ การ์บาฆาล มีพื้นที่มีเวลา ตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโค้งไปที่หน้าประตูให้ เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า วิ่งสอดมาเทคตัวขึ้นโหม่งสะบัดเน้น ๆ ทว่ากดไม่ลง ส่งบอลเฉียดคาน หลุดออกไปอย่างน่าเสียดาย

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างชัดเจนถึง 74 เปอร์เซ็นต์ เป็นฝ่ายปูพรมพับสนาม ขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือน โอซาซูน่า อยู่แทบจะฝั่งเดียว ทว่าจังหวะจบในพื้นที่อันตรายยังไม่เฉียบคมพอเอง สุดท้ายยังทำอะไรกันไม่ได้ สกอร์เสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!

นาที 50

เปิดฉากครึ่งหลัง เป็นทางฝั่งทีมเยือน โอซาซูน่า ที่เกือบจะได้ประตูออกนำ เป็นจังหวะ ชิมี่ อาวิล่า กระชากบอลสวนกลับเร็วหลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะปาดเลียดเลยไปที่หน้าเสาสองให้ ฆอน มอนกาโยล่า วิ่งโฉบมาตวัดยิงเน้น ๆ พุ่งเลียดไปชนเสาอย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 59

เจ้าถิ่น ทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด น่าได้ประตูแบบสุด ๆ เหมือนกัน จังหวะนี้ วินิซิอุส จูเนียร์ กระชากบอลเร็วจี๋ขึ้นมาเอง ก่อนจะแทงทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาให้ โรดรีโก้ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้หลุดไปตวัดหักข้อกึ่งยิงกึ่งผ่านไปที่หน้าประตู แล้วเป็น วินิซิอุส จูเนียร์ เจ้าเก่า วิ่งสอดตามขึ้นมา พยายามพุ่งเข้าชาร์จจ่อ ๆ แต่โดนแค่นิดเดียว บอลถากเสาไกล หลุดออกหลังไปนิดเดียว

นาที 61

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด เกือบจะได้ประตูขึ้นนำอีกแล้ว จังหวะนี้ คาริม เบนเซม่า วิ่งสอดไปรับบอล หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวล็อคบอลหนีตัวประกบมาเข้าเหลี่ยมเท้าซ้าย ก่อนจะก้มหน้าซัดเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไปเช็ดคานเต็ม ๆ กระเด้งลอยออกหลังไปอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 75

ทีมเยือน โอซาซูน่า ได้ลุ้นจากลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย ราอูล การ์เซีย เปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น ดาบิด การ์เซีย ได้สลัดตัวประกบ สอดมาเทคตัวขึ้นโหม่งเหน่ง ๆ แต่ก็ยังโขกได้ไม่ดีเอง ทำบอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าผิดหวังสุด ๆ

นาที 81

เจ้าถิ่น ทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว คาเซมิโร่ เล่นลูกลักไก่ ตั้งป้อมบรรจงวางเท้าซัดไกลจากแดนตัวเองสุดแรง ส่งบอลพุ่งข้ามตัวของ เซร์คิโอ เอร์เรร่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ไปได้แล้ว ทว่ามุดช้าไปหน่อย บอลลอยไปตกหลังคาน หลุดออกหลังไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 88

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ขึงเกมรุก โหมบุกหวังเอาประตูชัยอย่างหนัก จังหวะนี้ วินิซิอุส จูเนียร์ แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้ มาร์เซโล่ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้เติมสูง วิ่งสอดตัดหลังแนวรับ หลุดโล่ง ๆ เข้าไปบรรจงยกบอลด้วยซ้ายมุมแคบ ลอยข้ามตัว เซร์คิโอ เอร์เรร่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน กระดอนผ่านหน้าปากประตู ถากเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

หมดเวลาการแข่งขัน เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ปืนฝืด เปิดบ้านทำได้แค่เสมอกับทีมเยือน โอซาซูน่า ไปด้วยสกอร์ 0-0 !!! รั้งรองจ่าฝูงของตารางอยู่ในขณะนี้ โดยนัดต่อไป ราชันชุดขาว จะต้องไปเยือนเอลเช่ ในคืนวันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม 2564  ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านโอซาซูน่า อยู่อันดับที่ 7 ของตารางคะแนน นัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนเซบีย่า ในวันเดียวกันแต่คนละเวลา