มาห์เรซเหมาสอง!! “แมนซิตี้” บุกมาไล่ถล่ม “คลับ บรูซ” 5-1 แซงขึ้นรองจ่าฝูงกลุ่ม

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น คลับ บรูช (เบลเยี่ยม) เปิดสนาม ยาน เบรย์เดล สตาดิโอน, บรูจส์ ประเทศเบลเยี่ยม ต้อนรับการมาเยือนของทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ) ในศึกฟุตบอล  ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป เอ นัดที่ 3 เมื่อค่ำคืนวันอังคารที่ 19 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา 

เกมนี้ เจ้าถิ่น คลับ บรูช ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ฟิลิปป์ เคลม็องต์ มาเล่นในระบบ 4-4-1-1 นำทีมโดย ซิมง มิโญเล่ต์ ผู้รักษาประตูทีมชาติเบลเยี่ยม โนอา แลง เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม และ ชาร์ลส์ เด เคเตแลเร่ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย รูเบน ดิอาส ปราการหลังตัวแกร่ง เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์จอมแอสซิสต์ และ ฟิล โฟเด้น กองหน้าตัวความหวังของทีม

นาที 10

เปิดฉากเกมมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เกือบได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะเปิดบอลยาวทิ้งขึ้นหน้าออกซ้ายให้ แจ็ค กรีลิช วิ่งเบียดตีคู่มากับ คลินตัน มาต้า  ก่อนจะเอาชนะได้แล้วหลุดไปกระดกบอลข้ามหัว ซิมง มิโญเล่ต์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ทว่า อิสต์วาน โควัชส์ ผู้ตัดสินจากโรมาเนีย เป่าให้เป็นการผลักทำฟาล์วของเจ้าตัวอย่างน่าเสียดาย

นาที 13 VAR!!!

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยิงเข้าแต่ไม่ได้ประตูอีกครั้ง จากจังหวะเปิดฟรีคิกเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ โรดรี้ สอดมาตบเข้าไปที่ตรงกลางประตูให้ อายเมอริค ลาปอร์กต์ ชาร์จเน้น ๆ เข้าประตูไป ไม่เหลือซาก ทว่าสัญญาณ VAR ส่งตรงมายังผู้ตัดสินว่า ลาปอร์กต์ อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ก่อนที่ อิสต์วาน โควัชส์ จะวิ่งไปดู สุดท้ายกลับลงมาเป่าริบประตูคืนไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 14

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ แบร์นาโด้ ซิลวา แทงบอลยัดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ฟิล โฟเด้น ที่โดนประกบติด ได้พยายามโยกหาช่อง ก่อนที่สุดท้ายจะได้จังหวะซัดเร็วยัดไปที่เสาแรก ทว่าบอลพุ่งเข้าหน้าต่างข้างตาข่าย หลุดกรอบออกไปนิดเดียว

นาที 27

ทัพเรือใบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ฟิล โฟเด้น แหวกขึ้นมาแทงบอลเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ แบร์นาโด้ ซิลวา ได้สอดมาปาดเข้ากลางให้ เควิน เดอ บรอยน์ ได้จับหนึ่งทีแล้วซัดเร็วด้วยขวา ส่งบอลพุ่งไปตรงตัวของ ซิมง มิโญเล่ต์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เซฟเอาไว้ได้ทัน ก่อนจะมีธงล้ำหน้ายกตามหลังขึ้นมา ถ้าเข้าก็อาจจะไม่ได้ประตูอยู่ดี

นาที 30 GOAL!!!

หลังจากบดอยู่นาน ทีมเยือน ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจนได้เป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ฟิล โฟเด้น วางบอลยาวจากกลางสนามเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ชูเอา กันเซโล่ ทำลายกับดักล้ำหน้า วิ่งสอดเข้าไปพักอกเอาบอลลง เจ้าตัวโดนเบียดแต่ก็ยังไม่ล้ม สุดท้ายได้จิ้มเร็วด้วยซ้ายลอดหว่างขาของ ซิมง มิโญเล่ต์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 41

เจ้าถิ่น คลับ บรูซ ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ ได้เตะมุมทางฝั่งขวา ชาร์ลส์ เด เคเตแลเร่ รับหน้าที่ เปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น แจ็ค เฮนดรี้ ได้โฉบมาเทคตัวขึ้นโหม่งเช็ดเหน่ง ๆ คนเดียว ทว่าโดนบางแบบสุด ๆ บอลลอยเลยไปออกข้างแทน อย่างน่าเสียดาย

นาที 43 GOAL!!!

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะ ทำชิ่งในเขตโทษ แล้วเป็น เควิน เดอ บรอยน์ จับบอลลั่นทะลักไปเข้าทาง ริยาด มาห์เรซ ได้ปรี่ไปถึงบอลก่อนจะโดน สแตนลี่ย์ เอ็นโซกี้ เข้าบอลช้าไปเสียบสกัดล้มลงไป ผู้ตัดสินวิ่งมาเป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษของทัพเรือใบทันที สุดท้ายเป็น ริยาด มาห์เรซ ลุกขึ้นมารับหน้าที่สังหารเอง ซัดเข้าประตูไป ไม่พลาด

นาที 45+3

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ลุ้นบวกสกอร์เพิ่มอีกสองหนติด ๆ กัน จังหวะแรกเป็น เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายตามช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ฟิล โฟเดน ล็อคแล้วไหลเข้ากลางให้ ริยาด มาห์เรซ วิ่งโฉบมายิงด้วยซ้ายเน้น ๆ ติดเซฟของ ซิมง มิโญเล่ต์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น จังหวะสอง ยังคงเป็นทีมเยือน ที่ตามเก็บบอลแถวสองได้ สุดท้ายจ่ายคืนกลับมาที่ ริยาด มาห์เรซ เลี้ยงวนแล้วจ่ายออกมาที่หน้สเขตโทษให้ เควิน เดอ บรอยน์ ส่องไกลด้วยขวา ส่งบอลเหินข้ามคานออกไป

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทางฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าตามคาด ปูพรมขึงเกมรุกบุกใส่เจ้าถิ่น คลับ บรูซ อยู่แทบจะฝ่ายเดียว แถมทัพเรือใบ ยังยิงประตูออกนำไปก่อนแล้วถึง 2-0 !!!

นาที 53 GOAL!!!

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! เป็นจังหวะเริ่มที่ ริยาด มาห์เรซ ทางกราบขวาไหลคืนมาที่หน้าเขตโทษให้ เควิน เดอ บรอยน์ ได้จ่ายบอลทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาอย่างเหนือชั้นให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ สอดมาซัดหักข้อด้วยขวาเน้น ๆ ผ่านมือ ซิมง มิโญเล่ต์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เสียบเสาไกลเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 57

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบจะได้ลูกที่สี่ เป็นจังหวะต่อบอลขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษ แล้วเป็น ฟิล โฟเด้น มีโอกาสได้หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบฝั่งซ้าย เจ้าตัวดวลตัวต่อตัวกับ ซิมง มิโญเล่ต์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่เสาแรก ทว่ามุมเหลือน้อย สุดท้ายยิงไม่ผ่านอดีตนายทวารลิเวอร์พูล ที่ยืนปิดมุมได้ไว เซฟช่วยทีมเอาไว้ได้ทัน

นาที 62

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษเยื้อง ๆ ไปทางขวา โดยที่มี เควิน เดอ บรอยน์ ยืนเป็นตัวหลอก สุดท้ายเป็น ริยาด มาห์เรซ รับอาสา วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลข้ามกำแพง ทว่าส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปด้วยเหมือนกัน

นาที 67 GOAL!!!

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูเพิ่มเป็น 4-0 !!! เป็นจังหวะตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย เจ้าตัวปาดเลียดเข้ากลางมาที่หัวกระโหลกให้ โคล พาลเมอร์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา วิ่งสอดมาแต่งบอลเข้าเขตโทษ ก่อนจะเอี้ยวตัวบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งผ่านมือ ซิมง มิโญเล่ต์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เสียบเสาซ้ายมือเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 70 

ทีมเยือน ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โหมบุกหนักอยู่ฝั่งเดียวจริง ๆ จังหวะนี้ โคล พาลเมอร์ แทงบอลเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้หลุดไปซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ หนีมือ ซิมง มิโญเล่ต์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น กระดอนพื้นผ่านหน้าปากประตู ถากเวาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปแบบได้เสียว

นาที 75

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบจะได้ประตูที่ห้า เป็นจังหวะ โคล พาลเมอร์ แทงบอลเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ วิ่งสอดแล่บเข้าไปเอาบอล ก่อนจะปาดเข้ากลางแบบเผื่อไปหน่อย อิลคาย กุนโดกัน พยายามวิ่งโฉบมาชาร์จโล่ง ๆ แต่ไม่ถึงบอล ช้าไปนิดเดียว ไม่งั้นกดใส่สกอร์รอไว้ได้เลย

นาที 77

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ แจ็ค เฮนดรี้ ทำเสียบอล แล้วเป็น ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลากตัดจากริมเส้นฝั่งซ้าย ทะลุเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะมีพื้นที่มีเวลาได้สับไกเน้น ๆ ไปติดเซฟของ ซิมง มิโญเล่ต์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่เสาแรก กระเด้งกลับมาที่เจ้าตัวได้ซ้ำอีกรอบ คราวนี้เข้าหน้าต่างข้างตาข่าย หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 79

เจ้าถิ่น คลับ บรูซ บุกขึ้นมาได้ลุ้นครั้งแรก ๆ ของเกมเลยก็ว่าได้ จังหวะนี้ อิกเนซ ฟาน เดอร์ เบรมพ์ต ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้บอลหลุดขึ้นมาถึงริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะดึงจังหวะแล้วครอสเข้าไปที่กลางประตูให้ ชาร์ลส์ เด เคเตแลเร่ สอดมาทิ้งตัวโขกเหน่ง ๆ กระดอนพื้นไปติดเซฟของ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ปัดเอาไว้ได้ทัน

นาที 81 GOAL!!!

เจ้าถิ่น คลับ บรูซ มาได้ประตูตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 4-1 !!! เป็นจังหวะ อิกเนซ ฟาน เดอร์ เบรมพ์ต ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบฝั่งขวา เจ้าตัวครอสพุ่งระดับหัวเข่ามาที่เสาแรก แล้วเป็น รุด วอร์เมอร์ แหย่จับบอลไม่ถึงกลายเป็นสะกิดเปลี่ยนทางบอลเลยไปที่กลางประตูเข้าทาง ฮันส์ ฟานาเค่น ได้ซัดด้วยขวาโล่ง ๆ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที 84 GOAL!!!

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูปิดกล่องเป็น 5-1 !!! เป็นจังหวะ แฟร์นานดินโญ่ วางบอลยาวจากกลางสนามให้ ริยาด มาห์เรซ วิ่งสอดทำลายกับดักล้ำหน้า หลุดเดี่ยวเข้าไปล่อเป้าในเขตโทษ ก่อนที่เจ้าตัวจะซัดแสกหน้าของ ซิมง มิโญเล่ต์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม 

นาที 87

ก่อนหมดเวลา ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบจะแถมให้เจ้าบ้านอีกสักลูก จังหวะนี้ อิลคาย กุนโดกัน แทงตามช่องให้ ชูเอา คันเซโล่ ที่เติมสูงขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ได้ครอสจังหวะเดียวเข้าไปที่กลางประตูให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง สอดมายิงคนเดียวแต่ดันโดนไม่ดี พลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาไล่ถล่มเอาชนะเจ้าถิ่น คลับ บรูซ ไปได้ด้วยสกอร์ 5-1 !!! แซงขึ้นมารั้งอันดับที่ 2 ของตารางคะแนน ส่วนทางด้านคลับ บรูซ ร่วงมาอยู่ที่ 3 ของกลุ่ม โดยนัดต่อไปทั้งคู่จะกลับมาพบกันอีกครั้ง ในคืนวันพุธที่ 3 พฤศจิกายน 2564 ที่จะถึงนี้ แต่สลับมาเล่นในบ้านของทัพเรือใบสีฟ้าแทน