เกมยืดเยื้อ!! ยูเครน เหนื่อยซัดชัยช่วงต่อเวลาพิเศษ

การแข่งขันในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2020” รอบ 16 ทีมสุดท้าย ระหว่าง สวีเดน ลงสนามพบกับ ยูเครน เกมนี้ สวีเดน ลงเล่นในระบบ 4-4-2 และทางด้าน ยูเครน มาสู้ในระบบ 3-5-2

เริ่มเกมมาเป็นทางฝั่ง สวีเดน ได้บุกทักทายก่อนในนาทีที่ 7

เป็นจังหวะของ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก กระชากพาบอลลุยขึ้นหน้ามาก่อนจะได้ช่องยิงบอลยังพุ่งไปติดแนวรับ ยูเครน ก่อนบอลจะกระดอนออกมาเข้าทาง เดยัน คูลูเซสกี้ ยิงซ้ำจ่อ ๆ ก็ยังไปติด ตาราส สเตฟาเนนโก้ บอลเด้งออกหลังไปแบบน่าเสียดาย

ยูเครน ได้สวนขึ้นมาลุ้นจบสกอร์บ้าง ในช่วงนาทีที่ 10

เป็นโอกาสของ มิโคลา ชาปาเรนโก้ กระชากพาบอลตะลุยเดี่ยวจากบริเวณครึ่งสนามขึ้นมาก่อนจะได้ช่องยิงนอกกรอบบอลพุ่งออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้น

นาทีถัดมา ยูเครน ได้ลุ้นต่อเนื่องในนาทีที่ 11

เป็นจังหวะของ โรมัน ยาเรมชุค ทำชิ่งกับ อังเดร ยาร์โมเลนโก้ ก่อนจะจ่ายคืนมาให้ โรมัน ยาเรมชุค วางเท้ายิงเต็มข้อแต่ โรบิน โอลเซ่น ยังบินปัดเอาไว้ได้หวุดหวิด

นาทีที่ 19 สวีเดน เร่งเครื่องบุกขึ้นลุ้นสกอร์

เป็นจังหวะของ เดยัน คูลูเซสกี้ พาบอลลุยขึ้นมาก่อนจะจ่ายบอลเข้าในให้ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ปั่นบอลด้วยขวาพุ่งถากเสาไกลออกไปอย่างน่าเสียดาย

ไฮไลท์ฟุตบอล
ยูเครน มาพังประตูขึ้นนำไปก่อนในช่วงนาทีที่ 27

บอลเริ่มจาก อังเดร ยาร์โมเลนโก้ จ่ายบอลมาเสาไกลให้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ วิ่งเข้ามาวอลเลย์เน้น ๆ บอลพุ่งแรงทะลุผ่านมือ โรบิน โอลเซ่น เข้าประตูไปไม่พลาด ยูเครน ออกนำ 0-1

นาทีที่ 32 ยูเครน เกือบมาได้ประตูที่สอง

จากจังหวะลูกฟรีคิกของ ตาราส สเตฟาเนนโก้ วางบอลเข้ามาลุ้นหน้าปากประตูแต่ถูก อัลบิน เอ็คดัล โขกสกัดไว้ได้แต่ไม่ขาดบอลมาเข้าทาง อังเดร ยาร์โมเลนโก้ ยิงเต็มข้อบอลพุ่งเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

สวีเดนมาทวงประตูตีเสมอสำเร็จ ในนาทีที่ 43 

เป็นจังหวะของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ส่งบอลต่อมาให้ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก แต่งบอลหนึ่งจังหวะก่อนยิงนอกกรอบเต็มข้อ บอลพุ่งไปแฉลบผู้เล่นยูเครนเปลี่ยนทางบอลพุ่ง ผ่านมือ จอร์จี้ บุชชาน เข้าไปประตูไปเรียบร้อย สวีเดน ตีเสมอ 1-1 

จบครึ่งแรก สวีเดน เสมอกับ ยูเครน อยู่ที่ 1-1 รูปเกมเป็นทางฝั่ง สวีเดน ครองบอลบุกได้เหนือกว่านิดหน่อยแต่ในจังหวะสุดท้ายทั้งสองทีมยังทำได้ไม่ดีพอยังขาด ๆ เกิน ๆ อยู่ ต้องมาลุ้นกันต่อในช่วง 45 นาที

เซบาสเตียน ลาร์สสัน เกือบมีชื่อบนสกอร์บอร์ดใน นาทีที่ 52 

เป็นจังหวะที่ ฟอร์สเบิร์ก พาบอลลุยขึ้นหน้ามาก่อนไหลบอลเข้ากลางให้ เซบาสเตียน ลาร์สสัน แต่งบอลหนึ่งจังหวะวางเท้ายิงไกลนอกกรอบบอลพุ่งถากเสาแรกออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 55 ยูเครน ทำเกมได้ดีกว่า

เป็นโอกาสของ เซอรเก ซีดอร์ชุค รับบอลมาจาก ยาร์โมเลนโก้ ก่อนจะบรรจงปั่นด้วยขวาบอลกำลังจะเบียดเข้าเสาแต่บอลโค้งไม่พอพุ่งไปชนเสาออกหลังแบบได้เสียว

นาทีที่ 67 เดยัน คูลูเซฟสกี้ ยิงได้ดีแล้วแต่ จอร์จี้ บุชชาน ทำได้ดีกว่า

เป็นจังหวะของ เดยัน คูลูเซฟสกี้ กระชากบอลลุยเข้ามาในกรอบก่อนได้โอกาสยิงด้วยซ้ายบอลกำลังมุดเข้าใต้คานแต่ จอร์จี้ บุชชาน ยังไม่พลาดพุ่งปัดออกหลังไปได้ไม่ยาก

จบเกมในเวลาปกติ 90 นาที ทั้งสองทีมยังเสมอกันที่ 1-1 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที เพื่อหาผู้ชนะที่จะเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย รูปเกมทั้งสองคู่ยังกินกันไม่ลงต้องมาลุ้นกันต่ออีก

สวีเดน เสียเปรียบตั้งแต่นาทีที่ 98 ต้องมาเหลือผู้เล่นในสนาม 10 คน

เนื่องจาก มาร์คุส ดาเนียลสัน เสียท่าพุ่งไปเสียบเปิดปุ่มใส่หัวเข่า อาร์เต็ม เบเซดีน ผู้ตัดสินเห็นเหตุการณ์ชัดเจนเป่าให้ใบแดงไล่ออกจากสนาม  และ อาร์เต็ม เบเซดีน ได้รับบาดเจ็บจนเล่นไม่ไหวต้องส่ง วิคเตอร์ ซีกานคอฟ ลงมาเล่นแทน

ไฮไลท์ฟุตบอล

แต่แล้วช่วงนาทีที่ 120+1 แฟนบอล ยูเครน ได้เฮดัง

จากจังหวะบอลของ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ เติมขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะเปิดบอลมาเสาแรกให้ อาร์เตม โดฟบิค ได้ขึ้นโหม่งบอลพุ่งเข้าประตูไปไม่พลาด ยูเครน พลิกเอาชนะไป 1-2

จบเกม สวีเดน แพ้ให้กับ ยูเครน ไป 1-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษไปแบบสุดมันส์ เปอร์เซ็นต์การครองบอลและการเข้าทำจังหวะสุดท้ายกลายเป็น ยูเครน ที่ทำได้เฉียบคมมากกว่า ส่งผลให้ ยูเครน ทะลุเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเตรียมตัวไปพบศึกหนักกับ อังกฤษ