เอ็มบั๊ปเป้ซัดปิดท้าย! ช่วย “ปารีส” เอาชนะ “โมนาโก” คว้าแชมป์เฟร้นช์ คัพ

เกมการแข่งขัน ระหว่างทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ลีกเอิง) กับทีม โมนาโก (ลีกเอิง) ในศึกฟุตบอล เฟร้นช์ คัพ นัดชิงชนะเลิศ โดยเล่นกันที่สนาม สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ (สนามกลาง)

เกมนี้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ภายใต้การคุมทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย อังเคล ดิ มาเรีย ปีกจอมพลิ้วทีมชาติอาร์เจนตินา เมาโร อิคาร์ดี้ กองหน้าตัวจบสกอร์ และ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ศูนย์หน้าดาวซัลโวของทีม

ขณะที่ทางฝั่ง โมนาโก ภายใต้การคุมทีมของ นิโก้ โควัช มาเล่นในระบบ 4-5-1 นำทีมโดย อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน มิดฟิลด์ตัวทำเกม ยูสซูฟ โฟฟาน่า กองกลางตัวรับพันธุ์แกร่ง และ เควิน โฟลลันด์ ศูนย์ตัวจบสกอร์ทีมชาติเยอรมัน

นาที 18 GOAL!!!

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 !!! เป็นจังหวะความผิดพลาดของผู้เล่นโมนาโกเอง เมื่อ ราโดสลาฟ มาเยตสกี้ ผู้รักษาประตูโมนาโก จ่ายบอลสั้นให้ อักเซล ดิซาซี่ ที่หน้าประตูตัวเอง แล้วกองหลังเจ้ากรรมดันจับบอลพลาดง่าย ๆ โดน คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ฉกบอลไปได้ดื้อ ๆ ก่อนจะลากพาบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย แล้วจิ้มเลียดมาที่หน้าเสาไกลขวามือให้ เมาโร อิคาร์ดี้ ตามมาซัดจ่อ ๆ เข้าประตูไปอย่างง่ายดาย

นาที 25

โมนาโก หวิดได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ อูเรเลียง ชูอาเมนี่ เปิดบอลโด่งจากกลางสนามทิ้งขึ้นหน้าไปให้ เควิน โฟลลันด์ ได้เอาบอลลง แล้วโชว์ความพลิ้ว กระชากแหวกผู้เล่นเปแอสเช ทะลุเข้าไปในเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้ายดันซัดด้วยขวาเต็มข้อไปชนคานเต็ม ๆ กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย

นาที 32

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ต่อบอลกันขึ้นมาตรงกลาง จังหวะสุดท้ายบอลอยู่ที่ อังเคล ดิ มาเรีย ได้ลองส่องไกลนอกกรอบเขตโทษแต่ติดบล็อกผู้เล่นโมนาโก บอลกระฉอกไปที่หน้าเขตโทษด้านขวา แล้วเป็น อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ เติมสูงขึ้นตะบันด้วยขวาเต็มข้อไม่จับ บอลพุ่งแรงเป็นจรวด แต่ทิศทางไม่หนีมือเท่าไหร่  ราโดสลาฟ มาเยตสกี้ ผู้รักษาประตูโมนาโก ผวาปัดเสยปลายมือ ข้ามคานออกหลังไปได้ทัน ได้เป็นเตะมุม

นาที 36

โมนาโก ได้ลุ้นเหมือนกัน เป็นจังหวะได้ฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งซ้าย อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน ปั่นโค้งด้วยขวามาที่กลางประตู แล้วเป็น กีเยร์โม่ มารีปาน ได้โฉบมาโหม่ง แต่โดนบอลบางสุด ๆ บอลพุ่งเลยไปที่เสาไกลขวามือ อักเซล ดิซาซี่ ก็ชาร์จไม่ทัน เกย์ลอร์ นาวาส ผู้รักษาประตูปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยังไม่หลง ล้มตัวคว้าลูกบอลไว้ได้สบาย

นาที 43

โมนาโก ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน เปิดบอลโด่งโค้งมาที่กลางประตู แล้วเป็น ยูสซูฟ โฟฟาน่า ได้ลอยตัวขึ้นไปโขกเน้น ๆ บอลข้ามคานออกไปนิดเดียว ทำได้แค่เกือบสำหรับโมนาโก

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ครองบอลได้เยอะกว่า รูปเกมก็ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด เป็นฝ่ายครองเกมบุกใส่ทีม โมนาโก อยู่แทบจะฝั่งเดียว สกอร์ออกนำไปก่อนแล้ว 1-0 !!!

นาที 62

โมนาโก สวนขึ้นมาได้จบ เป็นจังหวะ ฌิบริล ซิดิเบ้ ตัดบอลได้แล้วลากลุยไต่ริมเส้นฝั่งขวาขึ้นมาเอง ก่อนจะไหลมาที่หน้าเขตโทษตรงกลางให้ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน ได้แต่งก่อนหนึ่งจังหวะ แล้วสับไกด้วยขวานอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเฉียดคานออกหลังไปแบบได้ลุ้นทีเดียว

นาที 68

โมนาโก เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะเหมือนจะไม่มีอะไร สเตฟาน โยเวติช ได้บอลตรงกลาง ก่อนจะไหลออกไปทางริมเส้นฝั่งขวาให้ เกลสัน มาร์ติน ได้โยกหนีตัวประกบ กระชากหลุดขึ้นมาที่กรอบเขตโทษด้านขวา แล้วครอสพุ่งเข้าไปที่หน้าปากประตู บอลดูเหมือนจะไม่ไปตามทางอย่างที่คิดแต่กลายเป็นดี เกือบจะเสียบใต้คานอยู่แล้วแต่ เกย์ลอร์ นาวาส ผู้รักษาประตูปารีส แซงต์ แชร์กแมง ผวาปัดบอลไปชนคานอย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 70

โมนาโก ขึ้นเกมมาตรงกลางแล้วได้จบ เป็นจังหวะ ฌิบริล ซิดิเบ้ ดันสูงขึ้นมาถึงกลางสนามโยนบอลยาวเข้าไปในเขตโทษ กองหลังเปแอสเชโหม่งสกัดไว้ได้ทัน บอลลอยมาตกที่หัวกระโหลกเข้าทาง สเตฟาน โยเวติช ได้แต่งเข้าขวาแล้วซัดเร็ว ก็ยังไปติดบล็อกแนวรับเปแอสเช กระดอนไปในเขตโทษฝั่งซ้ายเข้าทาง เคลปิน ดิยาลต้า ได้ฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวาไม่จับ บอลก็พุ่งไปตรงตัวของ เกย์ลอร์ นาวาส ผู้รักษาประตูปารีส แซงต์ แชร์กแมง เขยิบมารับเข้าซองไว้ได้ทัน

นาที 78

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง บุกขึ้นมาตรงกลาง มอยเซ่ คีน ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาแทน เมาโร อิคาร์ดี้ ได้บอลแล้วติดเครื่องกระชากพาบอลขึ้นมาเองด้วยความเร็ว ก่อนจะมาถึงหน้าหัวกระโหลกแล้วซัดไกลระยะร่วม 25 หลา บอลพุ่งแรงและเข้ากรอบแต่ ราโดสลาฟ มาเยจกี้ ผู้รักษาประตูโมนาโก ปฏิกิริยายังไว ผวาไปปัดออกหลังได้ทันหวุดหวิด

นาที 79

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง น่าจะได้ประตูหนีห่างแบบสุด ๆ เป็นจังหวะเริ่มที่ เกย์ลอร์ นาวาส ผู้รักษาประตูเปแอสเช โยนบอลยาวขึ้นหน้ามาให้ มอยเซ่ คีน ได้เบียดตัวประกบเอาบอลลงได้ทางกราบซ้าย ก่อนจะไหลบอลมาที่กึ่งกลางสนามตรงกลางให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เจ้าตัวพลิกบอลแต่งเข้าขวา แล้วเห็นนายทวารโมนาโกออกมาไกล เลยตัดสินใจซัดบอลโด่งด้วยขวาข้ามแนวรับโมนาโกไปที่ประตูทันที บอลพุ่งแรงแล้วมุดลงไปชนคานอย่างจังกระเด้งออกมา พลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 80 GOAL!!!

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะสวนกลับเร็ว ดานิโล่ เปเรยร่า แทงบอลขึ้นหน้าไปยังริมเส้นฝั่งขวาให้ อังเคล ดิ มาเรีย ได้เลี้ยงจี้เข้าหาตัวประกบ ก่อนจะเปลี่ยนสปีดกระชากตัดเข้าในไปถึงหัวกระโหลก แล้วแทงบอลทะลุช่องคิลเลอร์พาสให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่วิ่งสอดตัดหลังแนวรับโมนาโก ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจชิพบอลด้วยซ้ายนิ่ม ๆ สวนตัว ราโดสลาฟ มาเยตสกี้ ผู้รักษาประตูโมนาโก กระดอนไปเสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไปอย่างเฉียบคม

นาที 90

ช่วงท้ายเกม โมนาโก ได้ลุ้นเฮือกสุดท้ายบุกขึ้นมาทางขวา เคลา เฮนริเก้ ตัวสำรอง ทำชิ่งกับเพื่อน หลุดขึ้นมาทางกราบขวาได้สวย ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงเปิดเข้าไปที่กลางประตูให้ สเตฟาน โยเวติช ได้โฉบทะยานมาโหม่งเน้น ๆ แต่ก็กดไม่ลง เหินข้ามคานออกไปนิดเดียว 

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เอาชนะทีม โมนาโก ไปได้เบา ๆ 2-0 !!! คว้าแชมป์ฟุตบอล เฟร้นช์ คัพ ไปครองได้สำเร็จ เป็นโทรฟี่รายการนี้ สมัยที่ 14 ของสโมสร มากที่สุดในประวัติศาสตร์บอลฝรั่งเศส