“แมนฯซิตี้” เปิดบ้านกินบุญเก่า เสมอ “สปอร์ติ้ง ลิสบอน” ไปแบบจืดชืดด้วยสกอร์ 0-0 !!

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ) เปิดสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม, เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพสิงโตเขียวขาว สปอร์ติ้ง ลิสบอน (โปรตุเกส) ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง เมื่อค่ำคืนวันพุธที่ 9 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย อิลคาย กุนโดกัน กองกลางตัวขับเคลื่อน ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกจอมลากเลื้อย และ กาเบรียล เชซุส ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน สปอร์ติ้ง ลิสบอน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ รูเบน อโมริม มาเล่นในระบบ 3-4-2-1 นำทีมโดย บรูโน่ ทาบาต้า กองกลางห้องเครื่อง ปาโบล ซาราเบีย มิดฟิลด์ตัวทำเกม และ อิสลาม สลิมานี่ ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม

นาที 10

เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นฝ่ายครองบอลบุกอยู่ฝั่งเดียวตามสไตล์ เคาะบอลนวดไปเรื่อยไม่รีบร้อนอะไร ส่วนทางด้านทีมเยือน ทัพสิงโตเขียวขาว สปอร์ติ้ง ลิสบอน คอยตั้งรับตามคาด โอกาสจบสกอร์แบบจะแจ้งของทั้งคู่ในพื้นที่สุดท้ายยังไม่มีให้แฟน ๆ ได้เห็น

นาที 14

ช่วงต้นเกมไม่มีอะไรให้ได้ลุ้นเลยจริง ๆ จังหวะนี้ทีมเยือน สปอร์ติ้ง ลิสบอน ชิงได้ใบเหลืองไปก่อนอย่างรวดเร็ว เมื่อ เปาลินโญ่ เข้าบอลช้าเอาแขนไปฟาดใส่หน้าของ อายเมริค ลาปอร์กต์ ร่วงลงไปนอน ช็อตนี้ผู้ตัดสินควักเตือนโดยไม่ลังเล ยังดีไม่โดนใบแดง

นาที 22

ทีมเยือน สปอร์ติ้ง ลิสบอน ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ อิสลาม สลิมานี่ พาบอลจากกลางสนามไปถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา สุดท้ายพาตัวเองไปเจอทางตัน ทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเสียบอลไปอยู่ดี ไม่ได้ลุ้น

นาที 24

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ทักทายก่อน จากจังหวะที่ อิลคาย กุนโดกัน ตัดบอลได้แล้วจ่ายเร็งมาที่หน้าหัวกระโหลกให้กับ ฟิล โฟเด้น ได้แต่งเข้าเหลี่ยมเท้าซ้าย ก่อนจะเห็นช่องขอลองวางเท้าตะบันไกลเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงแฉลบแนวรับทีมเยือนไปถูก อันโตนิโอ อาดาน นายทวารทีมเยือน ผวาปัดทิ้งออกหลังไปได้ทัน เสียเป็นลูกเตะมุม

นาที 25

ช็อตต่อเนื่อง เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย จังหวะนี้ อิลคาย กุนโดกัน บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่หน้าเสาไกล แล้วเป็น จอห์น สโตนส์ ได้โฉบมาเทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ แต่โดนไม่ดีเท่าไหร่ ส่งบอลหลุดกรอบออกไปเยอะ แถมยังมีกองหลังทีมเยือนหวดสกัดทิ้งออกมาได้สบาย ๆ

นาที 26

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ลูกฟรีคิกบริเวณสุดเส้นหลังฝั่งขวา จังหวะนี้ ฟิล โฟเด้น บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่เสาไกลให้ อายเมริค ลาปอร์กต์ ได้สอดเทคตัวขึ้นโขกโล่ง ๆ คนเดียวระยะแค่ไม่กี่หลา ส่งบอลผิดเหลี่ยม หลุดกรอบออกไปเยอะอย่างไม่น่าเชื่อ พลาดโอกาสทองไปเองอย่างน่าเสียดาย

นาที 38

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะที่ แฟร์นานดินโญ่ จ่ายบอลมาที่บริเวณกึ่งกลางสนามให้กับ ฟิล โฟเด้น ถอยมาตวัดบอลแทงทะลุช่องสุดสวยจังหวะเดียวให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้วิ่งสอดแต่งบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะพยายามชิพนิ่ม ๆ อย่างเหนือชั้น ทว่าเป็น อันโตนิโอ อาดาน นายทวารทีมเยือน ไม่ยอมหลงง่าย ๆ ออกมาปิดมุมได้ไว เอื้อมมือปัดแล้วตามมาคว้าเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น

หมดเวลาครึ่งแรก เจ้าถิ่น ทัพเรือใบสีฟ้า ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดถึง 68 เปอร์เซ็นต์ เป็นฝ่ายต่อบอลพับสนามทำเกมรุกบุกใส่ทีมเยือน ทัพสิงโตเขียวขาว อยู่แทบจะฝั่งเดียว สุดท้ายยังทำอะไรกันไม่ได้ สกอร์ตอนนี้เสมอกันอยู่ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0 สปอร์ติ้ง ลิสบอน 0 (สกอร์รวมสองนัด แมนซิตี้ นำ ลิสบอน 5-0) !!!

นาที 47

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ วางบอลยาวเปลี่ยนแกนข้ามฟากจากซ้ายไปขวาให้กับ ริยาด มาห์เรซ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้กระชากตัดเข้าไปในเขตโทษ เจ้าตัวโดนสกัดเอาไว้ได้นิดนึง ก่อนที่สุดท้ายบอลยังกลับมาเข้าทางได้ไหลตามช่องต่อให้ กาเบรียล เชซุส หลุดไปซัดมุมแคบโล่ง ๆ ที่หน้าเสาซ้ายมือ ส่งบอลเข้าประตูไป ไม่เหลือ ทว่าช็อตนี้โดน VAR ริบสกอร์คืนเนื่องจากดาวยิงชาวบราซิเลี่ยนล้ำหน้าไปนิดเดียว เฮเก้อกันไปสำหรับแฟน ๆ เรือใบ

นาที 56

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกขึ้นมาได้จบอีกครั้ง เป็นจังหวะ เจมส์ แม็คอาร์ตี้ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ลากจี้ขึ้นมาแล้วไหลยัดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้ กาเบรียล เชซุส ได้โยกหนี เปโดร ปอร์โร่ ตัดเข้ากลางมาเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะสบโอกาสซัดหักข้อเน้น ๆ ส่งบอลน้ำหนักเบาไปหน่อยแถมทิศทางยังไปตรงตัวของ อันโตนิโอ อาดาน นายทวารทีมเยือน ทิ้งตัวเซฟเอาไว้ได้สบาย

นาที 57

ทีมเยือน สปอร์ติ้ง ลิสบอน มาได้โอกาสจบบ้าง เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ปาโบล ซาราเบีย จ่ายบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาให้กับ บรูโน่ ทาบาต้า ได้โยกตัดเข้าในแล้วซัดเร็วด้วยซ้ายทันที ส่งบอลพุ่งไปแฉลบบล็อกของ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ สุดท้ายกระดอนไปตรงตัวของ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเข้าซองเอาไว้ได้ไม่มีปัญหา

นาที 60

ทีมเยือน สปอร์ติ้ง ลิสบอน บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ มาร์คัส เอ็ดเวิร์ดส ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวม้วนหาช่องอยู่หลายตลบ ก่อนที่สุดท้ายจะเจอเหลี่ยม สบโอกาสโยกไปซัดมุมแคบด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งเบาแถมตรงตัวของ เอแดร์ซอน โมราเอส นายทวารเจ้าถิ่น ที่ยืนปิดมุมคุมเสารออยู่แล้ว รับเข้ามือเอาไว้ได้สบาย

นาที 72

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ ต่อเนื่องจากลูกฟรีแล้วแล้วโดนสกัดออกมา บอลชุลมุนขลุกขลิกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน ก่อนจะเป็น โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ วิ่งมาหวดเปรี้ยงด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงไปติดบล็อกเต็ม ๆ กระเด้งออกมาไม่ได้ลุ้นอะไรมากมาย

นาที 73

ช็อตต่อเนื่อง ทีมเยือน สปอร์ติ้ง ลิสบอน สวนกลับเร็วทันที จังหวะนี้ ต่อบอลทำชิ่งกันขึ้นมาสวยถึง เปโดร ปอร์โร่ แทงตามช่องขวางสนามไปในกรอบฝั่งซ้ายให้ มัทเตอุส ไรส์ เติมมาจับหนึ่งที ก่อนจะก้มหน้าหวดด้วยซ้ายเน้น ๆ มุมแคบ ส่งบอลพุ่งแรง ถากสามเหลี่ยมเสาแรก ลอยหลุดออกหลังไปพอสมควร ได้เสียวพอสมควร

นาที 73

ไฮไลท์ของเกมนี้เลยก็ว่าได้ เมื่อ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือเจ้าระเบียบของเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จัดการถอดเอา เอแดร์ซอน โมราเอส นายทวารตัวจริง ออกไปพัก ก่อนจะส่งทาง สกอตต์ คาร์สัน นายด่านวัย 36 ปี ลงมาเล่นแทน ทำเอาแฟนบอลเรือใบตบมือกันลั่นสนาม ซึ่งนี่ถือเป็นการกลับมาเล่นในเกมถ้วยบิ๊กเอียร์ของเจ้าตัวในรอบ 17 ปี หลังเคยเล่นสมัยอยู่กับทัพหงส์แดง ตอนอายุ 19 ปี ในเกมพบกับยูเวนตุส

นาที 74

ทีมเยือน สปอร์ติ้ง ลิสบอน พยายามยิงประตูเบิกร่องให้ได้ จังหวะนี้ วางบอลยาวสวนกลับเร็วมาทางริมกรอบฝั่งขวาให้กับ เปโดร ปอร์โร่ ได้ล็อคตัดเข้าเขตโทษ ก่อนจะสบโอกาสปั่นเร็วด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลปลิ้นถากเสาสองซ้ายมือ ลอยหลุดออกหลังไปไกล ชนิดไม่ได้ลุ้นอะไรเลย

นาที 76

ทีมเยือน สปอร์ติ้ง ลิสบอน เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ มาร์คัส เอ็ดเวิร์ดส กระชากขึ้นมาถึงหน้าหัวกระโหลก ก่อนจะตวัดแทงทะลุช่องคิลเลอร์พาสเข้าไปที่กลางประตูให้ เปาลินโญ่ วิ่งสอดหลุดเดี่ยวไปจิ้มด้วยซ้ายโล่ง ๆ ระยะไม่กี่หลา ทว่าเป็น สกอตต์ คาร์สัน นายทวารเจ้าถิ่น โชว์ซุปเปอร์เซฟ พุ่งออกมาปิดมุมได้ไว ทิ้งตัวเซฟจังหวะสุดท้ายเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 82

เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ ฟรีคิกเล่นสั้นมาที่ แฟร์นานดินโญ่ บรรจงหยอดบอลโด่งเข้าไปที่กลางประตูให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง พักอกย้อนหลังตั้งให้ ริยาด มาห์เรซ วิ่งมาสับไกด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไปติดบล็อกเต็ม ๆ สุดท้ายกระเด้งออกมาต้องตั้งเกมกันใหม่ ก่อนที่ถัดมาจะเป็น ปีกจอมพลิ้วชาวแอลจีเรีย เจ้าเก่า สบโอกาสกระชากเข้าไปซัดเร็วในเขตโทษฝั่งขวา ส่งบอลพุ่งไปติดบล็อกอีกครั้ง กระดอนออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม

นาที 88

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ลูกฟรีคิกระยะได้ลุ้น บริเวณมุมกรอบเขตโทษฝั่งขวา จังหวะนี้ ริยาด มาห์เรซ รับหน้าที่ เล่นลูกลักไก่หลอกยิง บรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย แต่ทิศทางยังไปตรงตัวของ อันโตนิโอ อาดาน นายทวารทีมเยือน รับเข้าซองเอาไว้ได้สบาย

นาที 90+2

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้ประตูชัย เป็นจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย อิลคาย กุนโดกัน บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น จอห์น สโตนส์ โฉบมาเทคตัวขึ้นโบกสะบัดเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งเฉียดคาน ลอยหลุดออกหลังไปเองแค่นิดเดียว อย่างน่าเสียดาย

หมดเวลาการแข่งขัน เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเสมอกับทีมเยือน สปอร์ติ้ง ลิสบอน ไปด้วยสกอร์ 0-0 !!! ทัพเรือใบสีฟ้า ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จด้วยสกอร์รวม 5-0 โดยการจับสลากประกบคู่รอบ 8 ทีมจะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 18 มีนาคม 2565 ที่จะถึงนี้

สนับสนุนบทความโดย ufabet