“แอตเลติโก้ มาดริด” บุกมาอัดเอาชนะ “เรอัล เบติส” ไปได้ถึงถิ่นแบบขาดลอย 3-1!! เขยิบรั้งอันดับที่ 4

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น เรอัล เบติส เปิดสนาม เอสตาดิโอ เบนิโต้ บียามาริน, เมืองเซบีย่า ประเทศสเปน ต้อนรับการมาเยือนของทัพตราหมี แอตเลติโก้ มาดริด ในศึกฟุตบอล ลา ลีกา สเปน นัดที่ 27 เมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น เรอัล เบติส ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ มานูเอล เปเญกรินี่ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย วิลเลี่ยม คาวัลโญ่ กองกลางห้องเครื่อง นาบิล เฟคีร์ เพลย์เมกเกอร์ตัวปั้นเกม และ บอร์ฆ่า อิเกลเซียส ดาวยิงตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ มาเล่นในระบบ 3-5-2 นำทีมโดย เอคตอร์ เอร์เรร่า กองกลางห้องเครื่อง โรดริโก้ เด ปอล มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม และ อังเคล คอร์เรอา ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม

นาที 2 GOAL!!!

เปิดฉากมาได้แค่แปปเดียว เป็นทางฝั่งทีมเยือน ทัพตราหมี แอตเลติโก้ มาดริด ที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็วตั้งแต่ไก่โห่เป็น 1-0 !!! จากจังหวะเริ่มที่ ยาน โอบลัค นายทวารทีมเยือน เปิดเกมสาดโด่งมาทางกราบขวาให้ ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้ โหม่งเช็ดต่อให้ อังเคล กอร์เรอา วิ่งสอดหลุดไปเกี่ยวบอลทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะตวัดเลียดเข้ากลางถวายพานให้ ชูเอา เฟลิกซ์ ตั้งป้อมแปด้วยขวาโล่ง ๆ ระยะไม่กี่หลา ส่งบอลเสียบเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที 11

เจ้าถิ่น เรอัล เบติส ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นครึ่งแรก เมื่อ อันเดรส กวาร์ดาโด้ มีปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว มานูเอล เปเญกรินี่ กุนซือจอมพเนจร จัดการส่ง คริสเตียน เตโญ่ ปีกตัวจี๊ดอดีตเด็กปั้นบาร์ซ่า ลงสนามมาเล่นแทน

นาที 21

ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็วเหมือนกัน เมื่อ ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้ มีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือฮาร์ดคอร์ จัดการส่งเอา ยานนิค การ์ราสโก้ ปีกจอมลากเลื้อยทีมชาติเบลเยี่ยม ลงสนามมาเล่นแทน

นาที 27

ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด ต้องมาเจอปัญหาอาการบาดเจ็บอีกครั้ง แถมยังเป็นกองหน้าตัวเก่งอย่าง อังเคล กอร์เรอา ที่ฝืนเล่นต่อไปไม่ไหวถูกเปลี่ยนออกไปให้แพทย์ดูอาการ ก่อนจะส่ง อองตวน กรีซมันน์ ตัวรุกทีมชาติฝรั่งเศส ลงสนามมาเล่นแทน

นาที 30

เจ้าถิ่น เรอัล เบติส ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ ได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบ บริเวณริมเส้นฝั่งขวา ฆัวกิน ซานเชซ ปีกตัวเก๋า บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น มาร์ก บาร์ตร้า พยายามเบียด ลอยตัวมาโขกเหน่ง ๆ โดนไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ ส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกล

นาที 35

ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูหนีห่าง จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว อองตวน กรีซมันน์ แทงบอลทะลุช่องคิลเลอร์พาสให้ ยานนิค การ์ราสโก้ ได้กระชากหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ เคลาดิโอ บราโว่ นายทวารเจ้าถิ่น ก่อนจะตกม้าตาย ตัดสินไม่ยิงเองเลือกส่งให้กับ เรนาน โลดี้ ทว่าเป็น ยุสซุฟ ซาบาลี่ ตามมาสกัดทิ้งเอาไว้ได้ทันอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 38

เจ้าถิ่น เรอัล เบติส เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ คริสเตียน เตโย่ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น โฮเซ่ มาเรีย กิเมเนซ หวดสกัดไม่ดีไปติดตัวของ ปอล อาคูโอคู กระเด้งเหินเฉียดคาน ลอยหลุดออกหลังไปแค่นิดเดียว ชนิดเสียววาบ

นาที 44

เจ้าถิ่น เรอัล เบติส น่าจะได้ประตูตีเสมอแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ฆัวกิน ซานเชซ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น มาร์ก บาร์ตร้า โฉบมาเทคตัวขึ้นโขกย้อนศรกดลงพื้นเน้น ๆ แบบไร้ตัวประกบ ส่งบอลพุ่งแรงกระเด้งพื้นเฉียดเสาแรกขวามือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย ยาน โอบลัค นายทวารทีมเยือน ทำได้แค่หันไปมองแล้วด้วย

นาที 45+3

ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก เจ้าถิ่น เรอัล เบติส ได้ลุ้นอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ฆัวกิน ซานเชซ รับบอลมาบริเวณริมเส้นฝั่งขวา เจ้าตัวมีพื้นที่มีเวลา ตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่กลางประตูโล่ง ๆ ให้ บอร์ฆ่า อิเกลเซียส ได้สอดมาเทคตัวขึ้นโขกสะบัดเหน่ง ๆ แบบไร้ตัวประกบ แต่ดันส่งบอลพุ่งไปตรงตัวของ ยาน โอบลัค นายทวารทีมเยือน รับเอาไว้ได้สบาย พลาดโอกาสทองไปเองอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 45+5 GOAL!!!

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก เจ้าถิ่น เรอัล เบติส มาได้ประตูตามตีเสมอจนได้เป็น 1-1 !!! จากจังหวะ เคลียร์บอลกันไม่ขาด แล้วเป็น เอคตอร์ เอร์เรร่า พยายามจะฝืนเลี้ยงบอลหน้าบ้านตัวเองเลยโดน ยุสซุฟ ซาบาลี่ ไล่บีบสไลด์ตัวสกัดกระฉอกมาที่หน้าเขตโทษฝั่งซ้ายเข้าทาง คริสเตียน เตโย่ วิ่งมาปั่นด้วยซ้ายนอกกรอบเน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยผ่านมือของ ยาน โอบลัค นายทวารทีมเยือน เบียดเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเฉียบคม

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดถึง 69 เปอร์เซ็นต์ เป็นฝ่ายขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือนได้อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะโดนทัพตราหมี บุกมายิงประตูขึ้นนำเร็วไปหน่อยตั้งแต่ต้นเกม สุดท้ายยังฮึดตามตีเสมอได้สำเร็จ สกอร์ตอนนี้เสมอกันอยู่ที่ เรอัล เบติส 1 แอตเลติโก้ มาดริด 1 !!!

นาที 49

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นเจ้าถิ่น เรอัล เบติส ที่ได้ลุ้นทันที จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว นาบิล เฟคีร์ แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้ คริสเตียน เตโย่ วิ่งสอดหลุดเข้าไปเอี้ยวตัววางเท้าบรรจงแปด้วยขวาเน้น ๆ มุมแคบ ส่งบอลพุ่งไปถูก ยาน โอบลัค นายทวารทีมเยือน ผวาทิ้งตัวปัดกลับมาเข้าทางอดีตเด็กทัพต่างดาวได้ซ้ำอีกที คราวนี้ก็ยังเป็นกัปตันทัพตราหมี ลุกขึ้นมาเซฟเอาไว้ได้อีกครั้งหนึ่ง เสียเป็นเตะมุม

นาที 51

ช็อตต่อเนื่อง เจ้าถิ่น เรอัล เบติส ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย จังหวะนี้ ฆัวกิน ซานเชซ เล่นลูกลักไก่หลอกยิง บรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ที่มุมธง ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย ทำท่าจะเลี้ยวเสียบเสาแรกซ้ายมือเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ต้องชม ยาน โอบลัค นายทวารทีมเยือน ที่ไหวตัวทัน ผวาตามมาควักทิ้งออกมาจากบนเส้นเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 55

ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด เกือบจะได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง เป็นจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา โรดริโก้ เด ปอล บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น เฟลิเป้ โฉบมาเทคตัวขึ้นโขกสะบัดเหน่ง ๆ ส่งบอลพุ่งไปชนโคนเสาซ้ายมือเต็ม ๆ กระเด้งมาเข้าทางปืนของ โฮเซ่ มาเรีย กิเมเนซ ได้โหม่งซ้ำเน้น ๆ ระยะไม่ถึง 5 หลา ทว่าทิศทางดันไปตรงตัวของ เคลาดิโอ บราโว่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเข้ามือเอาไว้ได้สบาย

นาที 61 GOAL!!!

ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจนได้เป็น 2-1 !!! จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้งสวนกลับเร็ว มาร์กอส ยอเรนเต้ ทำชิ่ง 1-2 กับเพื่อน ได้กระชากหลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะปาดเลียดถวายพานไปที่หน้าประตูให้ ชูเอา เฟลิกซ์ วิ่งสอดมาแปด้วยขวาโล่ง ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที 72

ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูหนีห่าง จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วอีกแล้ว โรดริโก้ เด ปอล แทงบอลทะลุช่องคิลเลอร์พาสอย่างสวยให้ ชูเอา เฟลิกซ์ ได้วิ่งสอดหลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะสบโอกาสได้ซัดด้วยซ้ายมุมแคบไปที่เสาแรกเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไปถูก เคลาดิโอ บราโว่ นายทวารเจ้าถิ่น ที่ยืนตำแหน่งได้ดี ออกมาปิดมุมได้ไว ทิ้งตัวเซฟเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 78

เจ้าถิ่น เรอัล เบติส ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษเยื้อง ๆ ไปทางขวา แล้วเป็น นาบิล เฟคีร์ รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย แต่ทิศทางยังไม่หนีมือเท่าไหร่ ยาน โอบลัค นายทวารทีมเยือน พุ่งไปเซฟเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น

นาที 79

ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูหนีห่างอีกครั้ง จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ยานนิค การ์ราสโก้ อาศัยความเร็ว กระชากพาบอลขึ้นมาเองถึงในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวโยกหลอกสองแนวรับหลุดไปถึงสุดเส้นหลังได้สวย ก่อนจะหักเลียดถวายพานมาที่บริเวณจุดโทษให้ อองตวน กรีซมันน์ วิ่งโฉบมาง้างเท้าบรรจงกดด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงแต่ไม่หนีมือเท่าไหร่ แล้วก็เป็น เคลาดิโอ บราโว่ นายทวารเจ้าถิ่น ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดี แถมออกมาปิดมุมได้ไว ทิ้งตัวปัดออกมาเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 80 GOAL!!!

ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 3-1 !!! จากจังหวะ ความยอดเยี่ยมของ อองตวน กรีซมันน์ ที่เก็บบอลได้ทางริมเส้นฝั่งขวาแล้วกระชากหนี บิคตอร์ รูอิซ ได้ลากบอลหลุดทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะตวัดเลียดถวายพานมาที่บริเวณจุดโทษให้ โตมาร์ เลอมาร์ วิ่งมาบรรจงแปด้วยซ้ายเล่นทางโล่ง ๆ ส่งบอลพุ่งแรงเสียบเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม ไม่เหลือซาก

หมดเวลาการแข่งขัน ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด บุกมาไล่ทุบเอาชนะเจ้าถิ่น เรอัล เบติส ไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 !!! แซงขึ้นมารั้งอันดับที่ 4 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับ กาดิซ ในคืนวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2565 ส่วนทางด้านเบติส ร่วงมาอยู่อันดับที่ 5 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านเจอกับ แอธเลติก บิลเบา ในคืนวันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2565 ที่จะถึงนี้