JK ยืนยันไม่ใช่การแก้แค้น ‘ราชัน’ ยกอันเช่เป็นต้นแบบ

เยอร์เก้น คลอปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ยืนกราน เจอเรอัล มาดริด ครั้งนี้จะไม่ใช่การล้างแค้นจากที่เคยปราชัยในนัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 2018 พร้อมยกย่อง คาร์โล อันเชลอตติ กุนซือทีมราชัน คือต้นแบบ

ลิเวอร์พูล โคจรกลับมาพบเรอัล มาดริด อีกครั้งในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หลังเมื่อ 4 ปีที่แล้ว พวกเขาแพ้ให้ทีมราชันจาก 2 จุดเปลี่ยน อาการบาดเจ็บของ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ และความผิดพลาดของ ลอริส คาริอุส

ซาล่าห์ ออกมาพูดเมื่อต้นเดือนว่าอยากเจอกับเรอัล มาดริด มากกว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เนื่องจากต้องการล้างแค้นยอดทีมสเปนอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด คลอปป์ ออกมายืนกรานว่า ไม่ใช่ความคิดที่ดีและไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ

เมื่อถูกถามว่าเขามีแรงจูงใจอะไรเป็นพิเศษก่อนเกมสำคัญวันเสาร์นี้หรือไม่ หลังเคยแพ้ให้กับเรอัล มาดริด มาเมื่อปี 2018

คลอปป์ ตอบว่า “ไม่มีเลย มันเป็นค่ำคืนที่เลวร้ายสำหรับเราเมื่อปี 2018 ทั้งกับสถานการณ์ วิธีที่เราเสียประตู และอาการบาดเจ็บของโม”

“เรามาถึงนัดชิงด้วยรถสามล้อหลังกรำศึกในฤดูกาลที่ยาวนาน ผู้เล่นคัมแบ็กกลับมาได้ทันนัดชิง และเราไม่สามารถแทนที่ผู้เล่นอย่างโมได้”

“นั่นคือเรื่่องราวของแชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิง แต่ผมไม่เชื่อเรื่องการล้างแค้น ผมไม่คิดว่าคุณเคยได้ยินว่าการล้างแค้นเป็นเรื่องที่ดี ผมเข้าใจมันนะ แต่ผมไม่คิดว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่จะทำ”

“ผมเข้าใจสิ่งที่โมพูดพยายามสื่อว่า เขาต้องการทำให้มันถูกต้อง ผมก็เหมือนกัน แต่ในเยอรมนีเรามีสำนวนที่พูดกันว่า “คนเราจะเจอกันหนที่สองในชีวิตเสมอ”

“มันก็เหมือนทำตัวให้ดีในครั้งแรก เพราะถ้าคุณได้เจอกันอีกครั้ง คุณจะได้รับการต้อนรับ แต่อย่าพูดเกี่ยวกับปฏิกิริยา”

“ไม่มีอะไรระหว่างผม เรา และเรอัล มาดริด, มันคือเกมฟุตบอลในระดับสูงสุด”

นอกจากนี้ คลอปป์ ยังยกย่องอันเชลอตติ ว่าเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก และเป็นแบบอย่างที่ดีกับวิธีที่เขาใช้จัดการกับความสำเร็จทั้งหมด”

“เขาเป็นหนึ่งในคนที่ดีที่สุดที่ผมเคยพบ เขาคือกลุ่มคนที่ยอดเยี่ยม เป็นชายที่ดีจริงๆ”

“เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่แน่นอนว่ามันต้องเบรกลงไปบ้างตอนที่เขาคุมเอฟเวอร์ตัน ความเคารพที่มีต่อเขายังคงอยู่เสมอ เขาไม่จะหยุดเป็นผู้ชนะ แต่นั่นไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับเกมนี้”