เปลี่ยน น้องเป้ ลงมายิง !! ช่วยเซฟ ฝรั่งเศส ตามเจ๊า ออสเตรีย 1-1 !!

นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง ออสเตรีย  ที่เตรียมเปิดสนาม แอร์นสต์ ฮัปเปล สตาดิโอน  ต้อนรับการมาเยือนของ ฝรั่งเศส ในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม  (ทีมชาติ) เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ ออสเตรีย จะมาในระบบ 4-4-2 แผนที่ รังนิก ใช้เป็นประจำ นำโดยเสาหลักของทีมเหมือนเดิมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เกอร์นอต เทราเนอร์,มาร์เซล ซาบิเซอร์,คอนราด ไลเมอร์,มาร์โค อาร์เนาโตวิช และ อันเดรียส ไวมันน์ 

ขณะที่ ฝรั่งเศส จะมาสู่ด้วยระบบ 4-2-3-1 ซึ่งแมตช์นี้จะมีการโรเตชั่นนักเตะค่อนข้างเยอะ ส่วนใหญ่ที่ใช้จะเป็นแข้งสำรอง ส่วนตัวหลักที่จะได้ลงสนามจะมีแค่ ฮูโก้ ญอริส,คิงสลีย์ โคมัน,เบนจามิน ปาวาร์,อองตวน กรีซมันน์ และ คาริม เบนเซม่า เป็นต้น 

นาทีที่ 18 

ฝรั่งเศส ทักทายแบบได้ลุ้น จากจังหวะที่ เพนท์ซ รับลูกยิงของ กรีซมันน์ ไม่อยู่ปัดไปเข้าทาง เบนเซม่า ได้โหม่งบอลตามน้ำ แต่ลูกนี้เหมือนจะโดนไม่เต็ม บอลจึงไม่มีน้ำหนัก เพนท์ซ ลุกขึ้นมาปัดทิ้งไว้ได้อีกครั้ง

นาทีที่ 37 ออสเตรีย นำก่อน 1-0!!

แต่ทำไปทำมา กลายเป็น ออสเตรีย ที่ได้ประตูออกนำก่อน จากจังหวะที่ อาร์เนาโตวิช ไหลบอลให้ ไลเมอร์ วิ่งสอดไปรับบอลในเขตโทษ ก่อนจะปากเรียดเข้ากลางให้ ไวมันน์ ได้ชาร์จจ่อๆ หน้าประตู ส่งบอลซุกก้นตาข่ายไปอย่างสวย 

นาทีที่ 43 

ช่วงท้ายเกม ฝรั่งเศส มีโอกาสตีเสมอเหมือนกัน จากลูกยิงไกลของ คาริม เบนเซม่า  แต่ทว่าลูกนี้เจ้าตัวน่าจะช้อนใต้ลูกมากเกินไปหน่อย บอลเลยเหินข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้น 

หมดครึ่งเวลาแรก กลายเป็น ออสเตรีย ที่เปิดบ้าน ยิง ฝรั่งเศส ได้ก่อน 1 ประตู และถ้าครึ่งหลังแนวเกมรับของพวกเขายังวินัยดีแบบนี้ ไม่แน่อาจจะยันสกอร์นี้ได้ จนจบเกม 

นาทีที่ 56

ฝรั่งเศส พยายามเร่งเต็มที่เพื่อ ทวงประตูคืน แต่จังหวะสุดท้ายก็ยังขาดๆเกินๆ อยู่ดี อย่างลูกนี้ โคมัน ก็เลี้ยงบอลสับขาหลอก จนมีช่องยิงสวยๆ แล้วเหมือนกัน  แต่บอลสุดท้ายก็ยังไม่เป็นใจ หลุดออกหลังไปอยู่ดี

นาทีที่ 71 

ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ฝรั่งเศษ ก็ยังเป็นฝ่ายบุกอยู่ข้างเดียวเหมือนเดิม แต่ทำยังไงก็เจาะแนวรับของ ออสเตรีย ไม่ได้เลย เพราะว่า 11 คนของ ออสเตรีย ยินกันแน่นในแดนของตัวเอง 

นาทีที่ 83 ฝรั่งเศส เอาจนได้ตามตีเสมอ 1-1 !!

เกมทำท่าจะจบด้วยชัยชนะของ ออสเตรีย อยู่แล้ว แต่ทันทีที่ ฝรั่งเศส เปลี่ยนเอา เอ็มบัปเป้ ลงมา เขาก็สร้างความแตกต่างได้ทันที เป็นจังหวะที่ เอ็นคุนคู แทงทะลุช่องให้ เอ็มบัปเป้ ใช้ความเร็วควบไปเอาบอลในกรอบเขตโทษ ก่อนจะเลือกยิงแสกหน้า แพทริก เพนท์ซ เข้าไปไม่มีเหลือ 

หมดเวลาการแข่งขัน ฝรั่งเศส รอดตายหวุดหวิด ตามเจ๊า ออสเตรีย 1-1 ได้สำเร็จ เก็บได้แค่ 1 คะแนน เดียวอีกแล้ว ทำให้ ฝรั่งเศส ยังเอาชนะใครไม่ได้เลยใน เนชั่นส์ ลีก ปีนี้